คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5242/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาททุกครั้ง เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าประมูลสู้ราคาทราบก่อนขายทอดตลาดว่าเมื่อมีผู้ให้ราคาสูงสุดแล้วจะนับหนึ่งถึงสามก่อนเคาะไม้ตกลงขายแต่เจ้าพนักงานบังคับคดีใช้วิธีเสนอให้ศาลชั้นต้นเป็นผู้อนุญาตให้ขาย เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายจึงตกลงขายให้ หากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตก็จะประกาศขายทอดตลาดใหม่ ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายทรัพย์สินพิพาทให้แก่โจทก์ผู้ให้ราคาสูงสุดแล้ว การขายทอดตลาดย่อมบริบูรณ์ ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา เมื่อมีผู้ให้ราคาสูงสุดก็ได้รายงานศาลเพื่อให้พิจารณาว่า สมควรขายให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุดหรือไม่ เมื่อไม่มีพฤติการณ์ส่อให้ศาลเห็นว่าการประมูลซื้อทรัพย์ที่ขายทอดตลาดรายนี้ เป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อจึงมีคำสั่งอนุญาตขายให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุด ถือว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์แล้ว จำเลยที่ 2 จะมาขอให้ยกเลิกการขายและขายทอดตลาดใหม่ไม่ได้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย โจทก์เป็นผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 3,500,000 บาท จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องคัดค้านว่าราคาสูงสุดต่ำกว่าราคาจริง ขอให้ประกาศขายใหม่โดยกำหนดราคาขั้นต่ำ5,000,000 บาท
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้แก่โจทก์ผู้เสนอราคาสูงสุด
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายพิพาททุกครั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าประมูลสู้ราคาทุกคนทราบก่อนการขายทอดตลาดว่า ในการขายทอดตลาดเมื่อมีผู้ให้ราคาสูงสุดแล้วจะนับหนึ่งถึงสามก่อนเคาะไม้ตกลงขาย แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีใช้วิธีเสนอให้ศาลชั้นต้นเป็นผู้อนุญาตให้ขายในกรณีที่มีผู้เข้าประมูลได้ให้ราคาสูงสุดแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแล้ว จึงตกลงขายให้ หากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ขายก็จะประกาศขายใหม่ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายทรัพย์สินรายพิพาทให้แก่โจทก์ผู้สู้ราคาสูงสุดแล้ว การขายทอดตลาดย่อมบริบูรณ์ และในการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีจะกำหนดราคาขั้นต่ำของทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดไว้หรือไม่ก็ได้ เมื่อได้ความว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้ไม่ได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา โดยมีบุคคลเข้าสู้ราคาเป็นการชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 3,500,000 บาท ก็ได้รายงานศาลเพื่อให้พิจารณาว่าสมควรขายให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุดหรือไม่ เมื่อไม่มีพฤติการณ์ส่อให้ศาลเห็นว่า การประมูลซื้อทรัพย์ที่ขายทอดตลาดรายนี้เป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อ จึงมีคำสั่งอนุญาตขายให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุดนั้นต้องถือว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์แล้ว จำเลยที่ 2 จะมาขอให้ยกเลิกการขายและขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่หาได้ไม่
พิพากษายืน.

Share