แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารที่พิพาทและส่งมอบอาคารที่พิพาทคืนให้แก่โจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องอีก การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่โดยกล่าวว่าจำเลยไม่เคยรับและไม่เคยทราบหมายเรียกจำเลยคงได้รับแต่เฉพาะคำบังคับเท่านั้น น่าเชื่อว่ามีการจงใจปกปิดหมายต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ส่งถึงจำเลยและเพื่อไม่ให้จำเลยทราบ โจทก์เคยบอกว่าจะให้เงินค่ารื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างออกไป ขอให้จำเลยอย่าสู้คดี จำเลยหลงเชื่อ โจทก์จึงแอบฟ้องนั้นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างซึ่งเป็นเหตุที่จำเลยได้ขาดนัดเท่านั้น หาเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นไม่ และที่จำเลยกล่าวว่า จำเลยปลูกสร้างอาคารขึ้น ไม่เคยยกให้โจทก์ โจทก์เคยตกลงจะยกทาวน์เฮาส์ให้จำเลยอาศัยโดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทน แต่โจทก์ผิดข้อตกลงนั้น เป็นข้ออ้างในทำนองว่าจำเลยเป็นผู้ปลูกสร้างและเป็นเจ้าของอาคารที่ให้เช่า โดยจำเลยไม่ได้คัดค้านในเนื้อหาคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นว่าจำเลยมิได้เป็นผู้เช่า หรือสัญญาเช่ายังไม่ครบกำหนดระยะเวลาเช่าหรือคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถูกต้องอย่างไร และไม่แสดงเหตุผลว่า หากศาลอนุญาตให้พิจารณาใหม่ จำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยดังกล่าวไม่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 208 วรรคสอง
ศาลชั้นต้นส่งคำบังคับให้จำเลยโดยวิธีปิดคำบังคับเมื่อวันที่ 2พฤษภาคม 2541 จำเลยต้องยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ต่อศาลภายในวันที่ 1มิถุนายน 2541 จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ฉบับแรกเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม2541 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันรุ่งขึ้นให้ยกคำร้องขอ โดยมิได้กำหนดให้จำเลยกระทำการอันใดภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลชั้นต้นจึงไม่จำต้องแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยทราบ และการสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ก็ไม่ทำให้ระยะเวลาที่ต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2541 ขยายออกไป และหากจำเลยไปขอทราบคำสั่งศาลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2541 แต่ศาลยังไม่สั่ง หรือไปขอทราบคำสั่งศาลในวันที่ 1 มิถุนายน 2541 อันเป็นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ แต่เจ้าพนักงานศาลบอกว่าหาสำนวนไม่พบจริง จำเลยย่อมทราบดีว่าจะต้องรักษาสิทธิของจำเลยโดยยื่นคำร้องขอให้ขยายระยะเวลายื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้แต่จำเลยหาได้ยื่นคำร้องขอเช่นนั้นไม่ เมื่อจำเลยมิได้กระทำการดังกล่าวข้างต้นจึงไม่มีเหตุสุดวิสัยที่ศาลชั้นต้นจะสั่งให้ขยายระยะเวลายื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ฉบับที่สองเมื่อพ้นระยะเวลาที่จำเลยมีสิทธิยื่นตามมาตรา 208 วรรคแรก ทั้งตามคำร้องขอดังกล่าวก็ไม่ได้กล่าวถึงพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ อันเป็นเหตุให้จำเลยยื่นคำร้องขอล่าช้า คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ฉบับที่ฟ้องจึงไม่ชอบด้วยมาตรา 208 วรรคสอง เช่นเดียวกัน