คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรับปลิงทะเลของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามข้อจำกัดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4 แต่โดยที่มาตรา 27 ทวิ นี้มีกำหนดโทษเบากว่ามาตรา 27 และเพิ่งบัญญัติขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2499 จึงเป็นที่เห็นได้ว่าความผิดตามมาตรา 27 ทวิ นี้ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 27 จึงได้บัญญัติมาตรา 27 ทวิ ขึ้นส่วนการริบของกลางนั้น มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2482 ระบุถึงการริบทรัพย์อันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 เมื่อ จำเลยไม่ผิดตามมาตรา 27 แล้ว จึงริบของกลางตามมาตรา17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2482 ไม่ได้ แต่ศาลมีอำนาจสั่งริบของกลางตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 ได้เพราะมาตรา 27 ทวิ ไม่มีข้อความแสดงว่าจะมิได้ตกอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายอาญาแม้ฟ้องโจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 ก็ตาม แต่ก็มีคำขอให้ริบของกลาง มาแล้ว ดังนั้น ศาลสั่งให้ริบตามบทกฎหมายที่ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ลักลอบนำเอาปลิงทะเล 7 กระสอบราคา21,400 บาท จากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้าม ข้อจำกัด และไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง ด้วยเจตนาจะฉ้อภาษี หรือมิฉะนั้นจำเลยก็รับไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัด เจ้าพนักงานศุลกากรจับของกลางได้ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 32 (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 มาตรา 16, 17 (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2497 มาตรา 10 (ฉบับที่ 13)พ.ศ. 2499 มาตรา 4 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดพ.ศ. 2487 มาตรา 7, 8, 9 ริบของกลาง และจ่ายรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย

จำเลยปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 32 (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 มาตรา 16, 17 (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ให้จำคุกจำเลย 6 เดือน ริบของกลางและให้จ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับร้อยละยี่สิบของราคาของกลาง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้รับปลิงทะเลของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามข้อจำกัดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4 และศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 27 ทวินี้ มีกำหนดโทษเบากว่ามาตรา 27 และเพิ่งบัญญัติขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2499 จึงเป็นที่เห็นได้ว่าความผิดตามมาตรา 27 ทวินี้ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 27 จึงได้บัญญัติให้เป็นความผิดขึ้นตามมาตรา 27 ทวิ ส่วนมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2482 ซึ่งระบุถึงการริบทรัพย์อันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 นั้นเมื่อจำเลยไม่ผิดตามมาตรา 27 แล้วศาลสั่งให้ริบของกลางในคดีนี้ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2482 ไม่ได้แต่ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลมีอำนาจสั่งริบของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ได้เพราะมาตรา 27 ทวิ ไม่มีข้อแสดงว่าจะมิให้ตกอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แม้ฟ้องของโจทก์มิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 แต่มีคำขอให้ริบของกลางมาแล้ว ศาลย่อมสั่งให้ริบตามบทกฎหมายที่ถูกต้องได้

จึงพร้อมกันพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4 และให้ริบของกลางตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share