คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อไม่ปรากฏว่ามีสัญญาก่อนสมรสให้อำนาจภริยาผู้ร้องเป็นผู้จัดการสินบริคณห์อย่างไรผู้ร้องจึงเป็นผู้มีอำนาจจัดการสินบริคณห์ตามกฎหมาย การที่ภริยาผู้ร้องเข้าแย่งจัดการ ผู้ร้องจะมายื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการหาได้ไม่
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งจะนำคดีมาสู่ศาล ได้ 2 อย่างคือ คดีมีข้อพิพาทกับคดีที่ไม่มีข้อพิพาท
คดีของผู้ร้องปรากฏว่ามีคำขอให้บังคับคดีแก่ภริยาผู้ร้องโดยขอให้ศาลสั่งห้ามภริยาไม่ให้เข้าจัดการในที่ดินสินบริคณห์เป็นการโต้แย้งสิทธิซึ่งได้ตั้งพิพาทกันในทางแพ่งจึงเป็นคดีมีข้อพิพาทอันจะต้องเริ่มคดีด้วยการทำเป็นคำฟ้องมายื่นต่อศาลเรียกเอาภริยาเข้ามาเป็นคู่ความเพื่อให้โอกาสแก่ภริยาต่อสู้คัดค้านป้องกันสิทธิและ เพื่อที่จะบังคับคดีเอาแก่ภริยาได้ตามคำร้องขอของผู้ร้อง จึงต้อง เสนอคดีโดยทำเป็นคำฟ้องมายื่นต่อศาล

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นสามีนางฉลวย กล้ากลางสมรมีที่ดินเป็นสินบริคณห์รวม 88 แปลง ผู้ร้องทำนาเองบ้าง ให้ผู้อื่นเช่าทำบ้าง เมื่อประมาณปี 2505 นางฉลวยเข้าแย่งทำและจัดการผลประโยชน์ในที่ดินทั้ง 88 แปลงไม่ยอมให้ผู้ร้องจัดการ ขอให้ศาลสั่งห้ามไม่ให้เป็นผู้จัดการ และมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการทำผลประโยชน์ต่อไป

ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำร้องไม่ปรากฏว่ามีสัญญาก่อนสมรสให้อำนาจภริยาเป็นผู้จัดการสินบริคณห์อย่างไร ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีอำนาจจัดการสินบริคณห์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1468 การที่ภริยาผู้ร้องเข้าแย่งจัดการสินบริคณห์เสียดังนี้ ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งและตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการสินบริคณห์โดยอ้างว่ามีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1470, 1471, 1472 บัญญัติให้ยื่นคำร้องต่อศาลได้นั้น เห็นว่า กรณีของผู้ร้องไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของกฎหมายทั้ง 3 มาตรา

ปัญหาที่ว่าคดีอย่างไรจะเริ่มดำเนินคดีโดยยื่นเป็นคำร้องหรือจะต้องทำเป็นคำฟ้องมายื่นต่อศาลนั้น จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายวิธีสบัญญัติ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งจะนำคดีมาสู่ศาลได้ 2 อย่าง คือ คดีมีข้อพิพาทกับคดีไม่มีข้อพิพาท คดีของผู้ร้องปรากฏว่ามีคำขอให้บังคับคดีแก่นางฉลวย โดยขอให้ศาลสั่งห้ามนางฉลวยไม่ให้เข้าจัดการในที่ดิน เป็นการโต้แย้งสิทธิซึ่งได้ตั้งพิพาทกันในทางแพ่ง จึงเป็นคดีมีข้อพิพาทอันจะต้องเริ่มคดีด้วยการทำเป็นคำฟ้องมายื่นต่อศาลเรียกเอานางฉลวยภริยามาเป็นคู่ความเพื่อให้โอกาสแก่เขาต่อสู้คัดค้านป้องกันสิทธิและเพื่อที่จะบังคับคดีเอาแก่นางฉลวยได้ตามคำร้องขอของผู้ร้อง คดีเรื่องนี้ต้องเสนอคดีโดยทำเป็นคำฟ้องมายื่นต่อศาล

พิพากษายืน

Share