แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อได้มีการโอนหนี้สินตามฟ้องซึ่งเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้แก่ บรรษัท บ.ไปก่อนที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะได้มีคำพิพากษา และบรรษัท บ. มิได้ยื่นคำร้องขอเป็นอย่างอื่น ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะต้องสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.ก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 มาตรา 30 วรรคหนึ่งและวรรคหก การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน 2,097,508.85 ริงกิตมาเลเซีย และ 164,370.07 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 16 กันยายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาจำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอนุญาต
จำเลยร่วมขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายความให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยร่วมซึ่งเป็นลูกค้าที่ได้รับสินเชื่อในการประกอบธุรกิจจากโจทก์สั่งซื้อสินค้าไม้อัดและไม้แปรรูปจากผู้ขายในประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์และประเทศมาเลเซีย ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2540 ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2540 จำเลยร่วมทำคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์ เพื่อการชำระเงินค่าสินค้า โจทก์เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต ตามคำขอของจำเลยร่วมและแจ้งไปยังธนาคารชุงกิว จำกัด ธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ จำกัด และธนาคารซิม จำกัด ให้แจ้งการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตไปยังผู้ขาย หลังจากนั้นผู้ขายได้ส่งสินค้าตามเลตเตอร์ออฟเครดิตให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้ขนส่ง จำเลยได้ออกใบตราส่งให้แก่ผู้ขาย โจทก์ในฐานะผู้รับตราส่งยังไม่ได้รับสินค้าไม้ที่จำเลยร่วมสั่งซื้อและยังไม่ได้รับชำระหนี้ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตจากจำเลยร่วม หลังจากยื่นฟ้องคดีนี้ โจทก์ในฐานะสถาบันการเงินได้โอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรายจำเลยร่วมให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ดังนั้น เมื่อได้มีการโอนหนี้สินรายนี้ซึ่งเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้แก่ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท) ไปแล้ว ก่อนที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะได้มีคำพิพากษา และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท) มิได้ยื่นคำร้องขอเป็นอย่างอื่น ชอบที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะต้องสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตามบทบัญญัติแห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 มาตรา 30 วรรคหนึ่งและวรรคหก การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องยกคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความตามกฎหมาย
พิพากษายกคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ยกอุทธรณ์ของโจทก์และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ.