คำสั่งคำร้องที่ 1738/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากโจทก์เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง รับฎีกาของจำเลยโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เพราะในฎีกาของจำเลยเป็นการฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงและในเนื้อหาฎีกาเป็นการฎีกาเกี่ยวกับ โฉนดที่ดินเลขที่ 69190 ตำบลทุ่งสองห้อง อำเภอบางเขน (ตลาดขวัญ) กรุงเทพมหานคร ที่จำเลยแพ้คดีซึ่งมีจำนวนทุนทรัพย์เพียง 122,000 บาท ดังจะเห็นได้จากอุทธรณ์ของจำเลยที่ยื่นศาลอุทธรณ์ แต่เนื่องจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน เกี่ยวกับที่จำเลยอุทธรณ์ จำเลยจึงไม่สามารถฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จำเลยจึงยอมเสียจำนวนทุนทรัพย์เท่ากับโจทก์ เพื่อจะใช้สิทธิฎีกา ขอศาลได้โปรดพิจารณาการสั่ง รับฎีกาของจำเลยใหม่ โดยขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง เพิกถอนการสั่งรับฎีกาของจำเลย ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนา คำร้องหรือไม่
คดีสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาพิพากษาเพื่อความสะดวกให้เรียกโจทก์สำนวนแรกซึ่งเป็น จำเลยสำนวนหลังว่าโจทก์ และเรียกจำเลยสำนวนแรก ซึ่งเป็นโจทก์สำนวนหลังว่าจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ จำเลยแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ ที่ดินโฉนดเลขที่ 69190 ตำบลทุ่งสองห้องอำเภอบางเขน(ตลาดขวัญ)กรุงเทพมหานครให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่ง โดยให้โจทก์ได้รับทางด้าน ทิศตะวันออก หากจำเลยเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย และให้โจทก์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 259 ตำบลทุ่งสองห้อง (สองห้อง)อำเภอบางเขน (ตลาดขวัญ) กรุงเทพมหานคร ส่วนของโจทก์เนื้อที่ 2 ไร่ ให้แก่จำเลยโดยให้จำเลยชำระ เงินค่าที่ดินที่เหลืออีก 100,000 บาท ให้แก่โจทก์ และให้โจทก์เป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการ โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงนี้กับค่าภาษีเงินได้ ในการโอน หากโจทก์เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของโจทก์ในการโอนกรรมสิทธิ์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ จำเลยต่างฎีกา (อันดับ 126,129)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 131)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การตรวจรับฎีกา เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้น เมื่อศาลชั้นต้น ตรวจสั่งรับฎีกาแล้ว คู่ความจะยื่นคำร้องขอให้ ศาลฎีกายกคำสั่งศาลชั้นต้นหาได้ไม่ ให้ยกคำร้องของ โจทก์

Share