คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5201/2552

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

หลังจากธนาคารโจทก์ยื่นฟ้อง โจทก์ได้โอนสินทรัพย์ด้วยคุณภาพจำเลยร่วมให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท) ดังนั้น เมื่อได้มีการโอนหนี้สินรายนี้ซึ่งเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท) ไปแล้ว ก่อนที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะได้มีคำพิพากษา และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท) มิได้ยื่นคำร้องขอเป็นอย่างอื่น ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางต้องสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตาม พรก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 มาตรา 30 วรรคหนึ่งและวรรคหก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2540 ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2540 บริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด สั่งซื้อสินค้าไม้อัดและไม้แปรรูปจากผู้ขายในประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์และประเทศมาเลเซียและทำคำขอให้โจทก์เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตให้แก่ผู้ขาย โจทก์มอบให้ธนาคารชุงกิว จำกัด ธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ จำกัด และธนาคารซิม จำกัด ในประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์และประเทศมาเลเซียแจ้งการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตไปยังผู้ขายโดยมีข้อตกลงในเรื่องการชำระเงินว่าเมื่อผู้ขายได้จัดส่งสินค้าลงเรือแล้ว ให้ผู้ขายเรียกเก็บเงินค่าสินค้าจากธนาคารดังกล่าวได้ ผู้ขายและบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด ตกลงมอบสินค้าทั้งหมด ใบตราส่ง กรมธรรม์ประกันภัย และเอกสารต่างๆ ให้แก่โจทก์หรือบุคคลที่โจทก์อนุญาต ซึ่งโจทก์อยู่ในฐานะผู้รับตราส่งอันมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการรับสินค้าตามใบตราส่งบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด จะรับสินค้าได้ต่อเมื่อชำระค่าสินค้าให้แก่โจทก์และได้รับโอนใบตราส่งจากโจทก์แล้ว โจทก์จ่ายเงินค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายแล้วตามเงื่อนไขในเลตเตอร์ออฟเครดิต คือ (1) เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235292 จำนวน 362,647.65 ริงกิตมาเลเซีย (2) เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235292 จำนวน 670,285.87 ริงกิตมาเลเซีย (3) เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235509 จำนวน 164,370.07 ดอลลาร์สหรัฐ (4) เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235510 จำนวน 453,135.49 ริงกิตมาเลเซีย และ (5) เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235510 จำนวน 611,439.84 ริงกิตมาเลเซีย รวมเป็นเงิน 2,097,508.85 ริงกิตมาเลเซีย และ 164,370.07 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อมาเมื่อเดือนธันวาคม 2540 โจทก์ตรวจสอบพบว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งมาทางเรือหะรินทรานสปอร์ต 12 และ 15 และหะรินพาณิช 18 และ 19 โดยเข้าเทียบท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือมาบตาพุด มีจำเลยเป็นผู้ขนส่ง จำเลยมีหน้าที่ต้องดูแลรักษาและส่งมอบสินค้าให้แก่โจทก์ฐานะผู้รับตราส่งหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ โดยมีการเวนคืนใบตราส่ง แต่จำเลยกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ กล่าวคือ หลังจากจำเลยขนถ่ายสินค้าขึ้นจากเรือ จำเลยส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด ทั้งที่มิได้มีการเวนคืนใบตราส่งและมิได้รับความยินยอมจากโจทก์อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย มิได้รับชำระหนี้ค่าสินค้าตามเลตเตอร์ออฟเครดิตจากบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด และโจทก์ไม่สามารถรับหรือโอนขายสินค้าดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น จำเลยจึงร้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เป็นจำนวน 2,097,508.85 ริงกิตมาเลเซีย และ 164,370.07 ดอลลาร์สหรัฐ ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน 2,097,508.85 ริงกิตมาเลเซีย และ 164,370.07 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 16 กันยายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ สินค้าตามฟ้องยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด บริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด มอบใบตราส่งให้แก่โจทก์เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตเท่านั้น หากบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด ไม่ชำระหนี้ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ต้องฟ้องเอากับบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด ไม่ใช่ฟ้องเอาจากจำเลย จำเลยขนส่งสินค้าตามใบตราส่งทั้ง 5 ฉบับ ถึงท่าเรือปลายทางคือท่าเรือของบริษัทไทยพรอสเพอริตี้ เทอร์มินอล จำกัด ที่มาบตาพุดและท่าเรือกรุงเทพตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและกรกฎาคม 2540 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนไม้ชนิดที่นำเข้าทั้งหมดหากถูกน้ำฝนอยู่เป็นเวลานานจะผุและชำรุดเสียหาย บริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด จึงขอเคลื่อนย้ายไม้ไปเก็บรักษาไว้แทนชั่วคราวโดยหากมีความเสียหายเกิดขึ้นบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด จำเลยไม่เคยยินยอมให้นำไม้ออกไปจากความดูแลของบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด รวมทั้งยังไม่เคยออกใบสั่งปล่อยสินค้า สินค้าจึงยังอยู่ในความดูแลของบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด จำเลยจึงไม่ได้ผิดสัญญาและไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์มีส่วนกระทำผิดด้วยที่ไม่ได้เรียกเก็บเงินจากบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด โดยเร็ว และไม่ได้แจ้งให้จำเลยเก็บรักษาสินค้าไว้ในคลังสินค้าตามคำสั่งของโจทก์เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายเพราะเรือเดินสมุทรมีค่าใช้จ่ายต่อวันสูง เมื่อโจทก์ไม่ได้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง จำเลยจึงมีความจำเป็นต้องบรรเทาความเสียหายและส่งมอบสินค้าให้แก่ท่าเรือปลายทาง มิฉะนั้นสินค้าจะตกเป็นของแผ่นดินหากสินค้าตกค้างอยู่เป็นเวลานาน ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเป็นจำนวนสูงเกินความเป็นจริง โจทก์ใช้สิทธิฟ้องคดีโดยไม่สุจริต คดีโจทก์ขาดอายุความ นอกจากคดีนี้แล้วโจทก์ยังได้ยื่นฟ้องบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 5 คน ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ กค.310/2544 ระหว่างธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โจทก์ บริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 5 คน ทุนทรัพย์ 211,351,811.20 บาท ในกรณีผิดสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิต ตั๋วเงิน รับมอบสินค้าเชื่อค้ำประกัน จำนอง ในคดีดังกล่าว โจทก์เรียกร้องตามสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิต รวม 12 ฉบับ โดยมีเลตเตอร์ออฟเครดิตหมายเลข 1011 แอล 235292 หมายเลข 1011 แอล 235509 และหมายเลข 1011 แอล 235510 ซึ่งเป็นเลตเตอร์ออฟเครดิตที่โจทก์อ้างเป็นมูลฟ้องในคดีนี้ทั้งหมดรวมอยู่ด้วย คดีดังกล่าวโจทก์ได้โอนสิทธิเรียกร้องไปให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยและบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ได้ยื่นคำร้องขอสวมสิทธิเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ในคดีดังกล่าวแล้ว และในคดีดังกล่าวศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546 ให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันรับผิดต่อโจทก์เต็มตามคำฟ้อง คำพิพากษาดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับคดีนี้เพราะเป็นมูลหนี้ที่เกี่ยวข้องกับเลตเตอร์ออฟเครดิตเลขที่ 1011 แอล 235292 เลขที่ 1011 แอล 235509 และเลขที่ 1011 แอล 235510 ซึ่งเป็นเลตเตอร์ออฟเครดิตตามที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ด้วย คำพิพากษาในคดีดังกล่าวจึงมีผลผูกพันโจทก์ที่ได้มีการโอนสิทธิเรียกร้องตามเลตเตอร์ออฟเครดิตทั้งหมดไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยด้วย โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาจำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทยงสวัสดิ์ค้าไม้ จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอนุญาต
จำเลยร่วมขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายความให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า จำเลยร่วมซึ่งเป็นลูกค้าที่ได้รับสินเชื่อในการประกอบธุรกิจจากโจทก์สั่งซื้อสินค้าไม้อัดและไม้แปรรูปจากผู้ขายในประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์และประเทศมาเลเซีย ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2540 ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2540 จำเลยร่วมทำคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์ เพื่อการชำระเงินค่าสินค้า โจทก์เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235292 เลขที่ 1011 แอล 235509 และเลขที่ 1011 แอล 235510 ตามคำขอของจำเลยร่วมและแจ้งไปยังธนาคารชุงกิว จำกัด ธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส จำกัด และธนาคารซิม จำกัด ให้แจ้งการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตไปยังผู้ขายหลังจากนั้นผู้ขายได้ส่งสินค้าตามเลตเตอร์ออฟเครดิตให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้ขนส่ง จำเลยได้ออกใบตราส่งให้แก่ผู้ขาย ตามใบตราส่งเลขที่ เคทีที/บีเคเค-04 เอ ใบตราส่งเลขที่ เคทีที/บีเคเค-06 เอ ใบตราส่งเลขที่ เคทีที/บีเคเค-05 เอ และใบตราส่งเลขที่ เคบี-01 ใบตราส่งแต่ละฉบับระบุไว้ในช่องผู้รับตราส่งว่าให้เป็นไปตามคำสั่งของโจทก์ ผู้ขายได้ยื่นใบตราส่งและเอกสารอื่นๆ ต่อธนาคารตัวแทนโจทก์และโจทก์ได้จ่ายเงินค่าสินค้าตามเลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235292 จำนวน362,647.65 ริงกิตมาเลเซีย เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235292 จำนวน 670,285.87 ริงกิตมาเลเซีย เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235509 จำนวน 164,370.07 ดอลลาร์สหรัฐ เลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235510 จำนวน 453,135.49 ริงกิตมาเลเซีย และเลตเตอร์ออฟเครดิต เลขที่ 1011 แอล 235510 จำนวน 611,439.84 ริงกิตมาเลเซีย รวมเป็นเงินที่จ่ายไปทั้งสิ้น 2,097,508.85 ริงกิตมาเลเซีย และ 164,370.07 ดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารตัวแทนโจทก์ได้ส่งใบตราส่งและเอกสารต่างๆ มาให้โจทก์ ส่วนสินค้าก็ได้ถูกขนส่งโดยเรือเดินทะเลหะรินทรานสปอร์ต 12 และ 15 และหะรินพานิช 18 และ 19 มาถึงท่าเรื่อกรุงเทพและท่าเรือมาบตาพุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2540 ถึงเดือนมิถุนายน 2540 โจทก์ในฐานะผู้รับตราส่งยังไม่ได้รับสินค้าไม้ที่จำเลยร่วมสั่งซื้อและยังไม่ได้รับชำระหนี้ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตจากจำเลยร่วม หลังจากยื่นฟ้องคดีนี้ โจทก์ในฐานะสถาบันการเงินได้โอนสินทรัพย์ด้วยคุณภาพรายจำเลยร่วมให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ดังนั้น เมื่อได้มีการโอนหนี้สินรายนี้ซึ่งเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท) ไปแล้ว ก่อนที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะได้มีคำพิพากษาและบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสก) มิได้ยื่นคำร้องขอเป็นอย่างอื่นชอบที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะต้องสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตามบทบัญญัติแห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 มาตรา 30 วรรคหนึ่งและวรรคหก การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องยกคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางและให้จำเลยจำหน่ายคดีออกจากสารบบความตามกฎหมาย”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ยกอุทธรณ์ของโจทก์และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

Share