แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามีจากภริยาและบุตรไปทำมาหากินอยู่ที่อื่น และไปมีภริยาใหม่เกิดบุตรด้วยกันอีกหลายคนเป็นเวลานานเกือบ 40 ปี โดยไม่มีการติดต่อเยี่ยมเยียนภรรยาและบุตรเดิมเลยนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า เจตนาสละการครอบครองที่นามือเปล่าที่ตนเป็นเจ้าของทำกินร่วมกับภริยาและบุตรคนเดิม ให้แก่ภริยาและบุตรคนเดิมแล้ว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดา จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์ที่ขอแบ่งมารดาจำเลยได้มาทางบรรพบุรุษของมารดาจำเลยดังนี้ เท่ากับต่อสู้ว่าทรัพย์รายนี้ไม่ใช่มรดกของบิดาโจทก์นั่นเอง ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมเป็นของบิดาโจทก์ แต่บิดาโจทก์สละให้เป็นของมารดาจำเลยและจำเลยแล้วศาลก็ตัดสินให้จำเลยชนะคดีได้ไม่เป็นการนอกประเด็นข้อต่อสู้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งนาพิพาทจากจำเลยโดยอ้างว่าเป็นของบิดาโจทก์ซึ่งวายชนม์แล้ว
จำเลยต่อสู้ว่า นารายนี้เป็นของนางอ่อนมารดาจำเลยได้รับมรดกมาทางบรรพบุรุษของนางอ่อนหาใช่ของนายอุ่นบิดาโจทก์ไม่
ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมนาพิพาทเป็นของนางหมัดมารดานายอุ่นบิดาโจทก์ เมื่อนายอุ่นได้นางอ่อนมารดาจำเลยแล้ว นางหมัดยกที่นานี้ให้นายอุ่น ๆ มีบุตรกันนางอ่อนคือจำเลยทั้ง 2 นี้ ต่อมาเมื่อสัก 32 ปีมานี้ นายอุ่นได้ออกจากตำบลนั้น มาเที่ยวรับจ้างหากินอยู่ที่อื่น และมาได้นางนากเป็นภรรยาเกิดบุตรกันอีก 5 คน นางอ่อนก็ได้สามีใหม่และมีบุตรกับสามีใหม่อีกหลายคน เมื่อนางอ่อนตายแล้วจำเลยก็ครอบครองนารายนี้ตลอดมา จนเมื่อนายอุ่นตายโจทก์จึงขึ้นมาขอแบ่งนารายนี้จากจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งนาให้โจทก์ตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามรูปเรื่องที่นายอุ่นจากไปเป็นเวลานานเดือน 40 ปีโดยไม่มีการติดต่อเยี่ยมเยือนเลยนั้นย่อมแสดงให้เห็นว่าเจตนาสละการครอบครองให้แก่นางอ่อน และจำเลยผู้เป็นภรรยาและบุตรแล้วส่วนข้อที่โจทก์คัดค้านว่าจำเลยได้ต่อสู้ว่า นารายนี้นางอ่อนได้รับมรดกมาทางบรรพบุรุษของนางอ่อน หาใช่ทางนายอุ่นไม่ คำชี้ขาดของศาลอุทธรณ์ที่ให้จำเลยชนะคดีจึงเป็นการนอกประเด็นนั้นเห็นว่าคำต่อสู้ของจำเลยอยู่ที่ว่า ที่รายนี้ไม่ใช่มรดกของนายอุ่นนั้นเอง จึงไม่ใช่เรื่องนอกประเด็นและพิพากษายืน