คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สิทธิที่จะขอประทานบัตรเหมืองแร่เป็นสิทธิฉะเพาะตัวบุคคลพลเมือง เมื่อโจทก์ซึ่งฟ้องขอให้ศาลแสดงสิทธิวายชนม์ลง สิทธินั้นก็ย่อมระงับไปด้วยและจะมีการรับมฤดกความต่อไปก็ไม่ได้กรณีเป็นเรื่องความมรณะของโจทก์ยังให้คดีไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ศาลต้องจำหน่ายคดี

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า ที่ดินรายพิพาทเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินซึ่งโจทก์ได้เคยขอรับอาชญาบัตรตรวจลองแร่ และมีสิทธิขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ จำเลยไม่มีสิทธิเกี่ยวข้องขัดขวางการขอรับประทานบัตรของโจทก์ และบังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปให้พ้นที่ดินรายนี้
จำเลยให้การต่อสูกรรมสิทธิ
ศาลชั้นต้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ ระหว่างอุทธรณ์โจทก์วายชนม์นางวานี สุมนัสยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภรรยาผู้ตายขอรับมฤดกความต่อไป ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นฉะเพาะในข้อบังคับให้รื้อสิ่งปลูกสร้าง นอกนั้นยืนตาม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้นาซิ่มจั่น โจทก์ฟ้องเป็นมูลละเมิด ขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยไม่ให้ขัดขวางในการที่นายซิ่มจั่นจะใช้สิทธิในการดำเนินการขอรับประทานบัตรเหมืองแร่ คำขอท้ายฟ้องมีสาระสำคัญอยู่ที่ให้ศาลแสดงว่า นายซิ่มจั่นมีสิทธิที่จะขอรับประทานบัตร และบังคับให้จำเลยถอนคำคัดค้านในการขอรับประทานบัตรนั้น บัดนี้ข้อเท็จจริงปรากฎว่านายซิ่มจั่นวายชนม์ลงแล้วสิทธิที่จะยื่นคำขอต่อทางราชการเช่นนี้เป็นสิทธิฉะเพาะตัวบุคคลพลเมือง ก็ย่อมระงับตามไปด้วย และศาลจะพิพากษาบังคับจำเลยไม่ให้ขัดขวางการกระทำในทางใช้สิทธิของนายซิ้มจั่นตามคำขอท้ายฟ้องก็ไม่มีประโยชน์ เพราะนายซิ่มจั่นใช้สิทธิอีกไม่ได้แล้ว กรณีเป็นเรื่องความมรณะของโจทก์ยังให้คดีไม่มีประโยชน์ต่อไป ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๓๒ (๓) จึงพร้อมกันสั่งให้จำหน่ายคดี

Share