แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สิทธิของขายที่จะเรียกคืนสินสอดตาม ป.พ.พ.ม.1436 ในกรณีที่การสมรสไม่สมบูรณ์เพราะขาดการจดทะเบียนนั้นต้องปรากฎว่า หญิงเป็นฝ่ายผิดไม่ยอมจดทะเบียน
อ้างฎีกาที่ 659/87
ชายหญิงสมรสกันโดยไม่ตั้งใจจดทะเบียนนั้น ภายหลังชายจะมาฟ้องเรียกสินสอดคืนไม่ได้.
ย่อยาว
ได้ความว่าโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ได้ทำการสมรสกันแล้วอยู่กินด้วยกันโดยไม่จดทะเบียนสมรสเป็นเวลา ๗-๘ เดือน บัดนี้โจทก์ฟ้องเรียกสินสอดคืน
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า เป็นความผิดของจำเลยที่ ๑ ที่ไม่ยอมจดทะเบียนสมรส จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา พิพากษาให้คืนสินสอด
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การสมรสไม่สมบูรณ์หรือไม่มีการสมรส เพราะไม่ได้จดทะเบียนตาม ป.พ.พ.ม.๑๔๔๙ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกสินสอดคืนตาม ป.พ.พ.ม.๑๔๓๖ แม้จะปรากฎตามข้ออ้างของจำเลยที่ ๑ ที่ว่าโจทก์ทำไม่ดีต่าง ๆ เช่นทำร้าย ทิ้งร้าง พูดอาฆาตว่าเมื่อจดทะเบียนแล้วจะกระทำให้สาสมแก่ความแค้นก็ตาม จึงพิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สิทธิของชายท่จะเรียกคืนสินสอดตามป.พ.พ.ม.๑๔๓๖ ในกรณีที่การสมรสไม่สมบูรณ์เพราะขาดการจดทะเบียนนั้น ข้อเท็จจริงในคดีนี้ฟังได้ว่า โจทก์กับจำเลยที่ ๑ไม่นำพาต่อการจดทะเบียนสมรสมาแต่แรก หาใช่จำเลยที่ ๑ เป็นฝ่ายผิดไม่ นัยหนึ่งโจทก์ไม่เตรียมพร้อมหรือคาดคิดให้จดทะเบียนสมรสกัน การให้สินสอดไปจึงไม่ใช่เพื่อการสมรสที่ต้องจดทะเบียน โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกสินสอดคืน พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์