คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยืมทรัพย์ของผู้อื่นไปจากผู้รับฝากทรัพย์นั้นไว้ โดยเจ้าของมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย เจ้าของทรัพย์ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนจากผู้ยืมได้โดยตรง
โจทก์ฟ้องเรียกกระดุมทองคำของโจทก์คืนจากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยืมไปตามฟ้อง ดังนี้ ประเด็นฝ่ายจำเลยมีแต่เพียงนำสืบว่าไม่ได้ยืมกระดุมไปตามฟ้อง ไม่มีประเด็นจะนำสืบว่ากระดุมของโจทก์เป็นลงหินชุบทอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมปิ่นปักจุกทองคำลงยาประดับพลอยทองหนัก10 สลึง และกระดุมทองคำ 4 ลูก ทองหนัก 1 บาท ของโจทก์ไปจากบิดาโจทก์โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย บัดนี้จำเลยไม่ยอมคืนให้โจทก์ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยคืนทรัพย์ดังกล่าว
จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ได้ยืมทรัพย์ของโจทก์ตามฟ้องและตัดฟ้องว่าโจทก์มิใช่คู่สัญญา ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนปิ่นทองหนัก 5 สลึงกับกระดุมของกลางแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ปิ่นของโจทก์ทองหนัก 10 สลึง ให้จำเลยคืนปิ่นทองหนัก 10 สลึงแก่โจทก์ ส่วนกระดุมของกลาง ฟังได้ตามคำพยานโจทก์ว่าไม่ใช่ของโจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยืมไปตามฟ้อง จำเลยไม่มีประเด็นจะนำสืบว่ากระดุมของโจทก์เป็นลงหินชุบทองจึงพิพากษาให้จำเลยคืนกระดุมและปิ่นปักจุกทองตามฟ้อง แก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share