คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2184/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี แม้ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษแต่ก็ยังลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี โจทก์ฎีกาในข้อดุลพินิจการลงโทษของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ คดีฟังได้ว่า จำเลยมีอาวุธปืนลูกซอง1 กระบอกมีหมายเลขทะเบียน ของบุคคลอื่นที่ได้รับอนุญาต และมีกระสุนปืนลูกซอง 5 นัด ไว้ในความครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต และจำเลยพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุสมควร

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2517มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 371 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 2 ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จำคุก 2 ปี ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ปรับ 100 บาท ลดฐานรับสารภาพให้กึ่งหนึ่งจำคุก 1 ปี ปรับ 50 บาท ริบปืนและกระสุนปืนของกลาง

จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงอาญาหรือปรับ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปีนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปีโดยไม่รอการลงโทษ แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษ แต่ก็ยังลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ฎีกาของโจทก์ที่ฎีกาในข้อดุลพินิจการลงโทษของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8)พ.ศ. 2517 มาตรา 6 ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ไม่ชอบ

จึงให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย

Share