คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทายาทตกลงแบ่งมรดกบางหย่างจะได้ปกครองมาเปนส่วนสัดถึง 5 แล้ว แม้จะมีทายาทบางคนไม่หยู่ + เวลานั้นและไม่บันลุนิติภาวะ แต่+ ที่ไม่หยู่ก็มิได้คัดค้านการแบ่งนั้นหย่างไรดังนี้ ทายาทที่ได้รับส่วนแบ่งจะบอกเลิกการแบ่งนั้นไม่ได้

ย่อยาว

โจทฟ้องแบ่งมรดก สาลชั้นต้นไห้แบ่งสำหรับทรัพย์ผู้อื่นส่วนไนเรื่องข้าง สาลชั้นต้นได้แบ่งกันเส็ดเด็ดขาดแล้วจึงไห้ยก สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดีกา ปัญหามีว่าการแบ่งช้างจะเปนการสมบูรน์หรือไม่ ซึ่งข้อเท็ดจิงมีว่า พระครูวิธาน ฯ เปนผู้จัดแบ่งช้างมรดก โจทได้ช้างบังส้อยเงิน โจทบันลุนิติภาวะแล้วได้ลงชื่อไนเอกสารหมาย ๑ ด้วยต่อหน้าทายาทอื่นอีกหลายคน แต่มีทายาทรับมรดาแทนที่นายเชยอีก ๒ คนไม่หยู่และไม่บันลุนิติภาวะ ต่อจากนั้น ๑๕ วัน ทายาทต่างก็ได้รับช้างที่แบ่งไปครอบครองเปนส่วนสัด นับถึงวันฟ้องกว่า ๕ ปี ทายาทซึ่งไม่หยู่ในเวลาแบ่ง ก็ได้ยินยอมรับรองเอาการแบ่งนั้นเปนเส็ดเด็ดขาดมานานแล้ว
สาลดีกาวินิฉัยว่า ไม่มีทายาทอื่นบอกล้างการแบ่งช้างมีแต่โจทผู้เดียว อ้างว่าทายาทอื่นไม่หยู่และไม่บันลุนิติภาวะอันเปนเหตุส่วนตัวของเขา สาลดีกาเห็นว่า เมื่อทายาทได้ตกลงแบ่งเอามรดกไปครอบครองเปนของคนเปนส่วนสัดเด็ดขาดแล้ว ก็เปนการแบ่งโดยชอบต้องตามประมวนแพ่งและพานิชมาตรา ๑๗๕๐ จึงพิพากสายืนตามสาลล่าง.

Share