คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5194/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่าคำฟ้องของโจทก์ต้องห้ามตามกฎหมายหรือไม่ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ได้ การที่โจทก์ที่ 2 ฟ้องจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นมารดาของตนเป็นการต้องห้ามตาม ป.พ.พ.มาตรา 1562 อันเป็นผลให้โจทก์ที่ 2 ไม่มีอำนาจฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 3 แต่ในระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 3 ถึงแก่กรรมโจทก์ที่ 2 ได้ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3ศาลชั้นต้นอนุญาตและสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 3 แล้ว จำเลยที่ 3 จึงมิได้เป็นคู่ความในคดีอีกต่อไป และเมื่อจำเลยอื่นไม่ใช่บุพการีของโจทก์ที่ 2 ฟ้องโจทก์ที่ 2 สำหรับจำเลยอื่นหาตกเป็นโมฆะ หรือต้องห้ามตามกฎหมายไม่
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ให้จำเลยแบ่งที่ดินพิพาทอันเป็นกรรมสิทธิ์รวม การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ไปจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินพิพาทต่อเจ้าพนักงานที่ดินหากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนามานั้นจึงเป็นการไม่ถูกต้องเพราะไม่เป็นไปตาม ป.พ.พ.มาตรา 1364 ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องโดยแบ่งกรรมสิทธิ์รวมตามมาตรา 1364

Share