แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามคำขอของผู้ร้อง ผู้ร้องประสงค์เพียงให้นับคะแนน ใหม่และให้ถือผลการนับคะแนนใหม่เท่านั้น มิได้ ร้องคัดค้านเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ คำร้องของ ผู้ร้องจึงมิใช่คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งดังที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 และไม่มีบทบัญญัติ ใดให้สิทธิแก่ผู้ร้องที่จะร้องคัดค้านขอให้มีการนับคะแนน ใหม่และถือเอาผลการนับคะแนนใหม่ได้คำร้องของผู้ร้องจึงไม่ใช่กรณีที่จะต้องใช้สิทธิ ทางศาลตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 78,79 ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ผู้ร้อง ไม่มีอำนาจร้องคัดค้านการเลือกตั้ง
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี หมายเลข 7เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วยอำเภอต่าง ๆ 9 อำเภอ คืออำเภอตระการพืชผล อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียมอำเภอตาลสุม อำเภอกุดข้าวปุ้น อำเภอเขาราฐ อำเภอโพธิ์-ไทร อำเภอชานุมาน และอำเภอเสนานิคม ในเขตนี้มีผู้แทนราษฎรได้ 3 คน ในวันเลือกตั้งวันที่ 13 กันยายน 2535 เมื่อหมดเวลาที่ทางราชการกำหนดให้ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเปิดหีบบัตรเลือกตั้งเพื่อนับคะแนน และจดคะแนนผู้สมัครลงในแบบ ส.ส.5 (แบบรายงานผลของการนับคะแนนประจำหน่วยเลือกตั้ง) มีกรรมการลงลายมือชื่อไว้ทุกคน แล้วส่งไปให้ทางอำเภอพร้อมหีบเลือกตั้งบัตรทางอำเภอจะเก็บหีบบัตรเลือกตั้งไว้ที่อำเภอ ส่วนแบบ ส.ส.5 จะส่งไปให้ทางจังหวัด ทางจังหวัดจะรวมยอดคะแนนของแต่ละอำเภอ ผู้ที่ได้คะแนนลำดับที่ 1 ถึงที่ 3 จะได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ร้องได้ติดตามผลการนับคะแนนทุกระดับของทางราชการในเขตเลือกตั้งที่ 4ปราบว่าผลการนับคะแนนที่รายงานทางวิทยุจากพื้นที่อำเภอจากอำเภอถึงจังหวัดไม่ตรงกับความเป็นจริง บางแห่งเมื่อรายงานทางวิทยุผิดพลาดก็พยายามแก้ไขแบบ ส.ส.5 ให้ตรงกับผลที่แจ้งล่วงหน้าไปแล้วและผลการรวมคะแนนก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง การแจ้งผลการนับคะแนนก็ไม่ตรงกับความจริง ผลการนับคะแนนที่ทางราชการประกาศแจ้งให้ทราบติดอยู่ที่แผ่นป้ายขนาดใหญ่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีเป็นผลการนับคะแนนที่แจ้งทางวิทยุคะแนนรวมของผู้ร้องที่ประกาศไว้ได้ 41,516 คะแนน ซึ่งไม่ตรงกับยอดทางอำเภอแจ้งชัดเมื่อรวมกันแล้ว เช่น คะแนนรวมของผู้ร้องที่อำเภอกุดปุ้น ผู้ร้องได้คะแนนตามยอดของอำเภอ 2,848 คะแนน แต่ทางจังหวัดประกาศแจ้งไว้เพียง 2,584 คะแนน ซึ่งขาดไปถึง 300 คะแนน กับคะแนนรวมของผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่นก็ผิดพลาดเช่นกันแต่ผิดพลาดไปในทางที่เป็นโทษของผู้ร้องคือได้คะแนนที่ผิดมากขึ้นไป เช่น ยอดของอำเภอเขมราฐ ผู้ได้คะแนนรวมในลำดับที่ 3 คะแนนตามแบบ ส.ส.5 ของอำเภอเขมราฐ รวมได้ 4,238 คะแนน แต่ทางราชการประกาศไว้ถึง 4,254 คะแนน เกินไป 16 คะแนน นอกจากนี้ยอดจากหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ที่รายงานทางวิทยุถึงอำเภอกับยอดตามแบบ ส.ส.5 ก็ไม่ตรงกันในลักษณะที่ผู้ร้องได้คะแนนลดลงเรื่อย ๆ ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นที่อำเภอเขมราฐ อำเภอชานุมาน และอำเภอกุดข้าวปุ้นซึ่งเป็นกรณีมีเหตุเคลือบแคลงน่าสงสัยว่า คณะกรรมการจะหลงลืมหรือผิดพลาด ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนไม่ตรงกับความเป็นจริงขอให้ศาลไต่สวนและนับคะแนนในหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยในอำเภอเขมราฐ อำเภอชานุมาน และอำเภอกุดข้าวปุ้น ใหม่ หากผลการนับคะแนนของทั้งสามอำเภอที่นับใหม่รวมกับอำเภออื่นแล้วผู้ร้องได้คะแนนอยู่ในลำดับที่ 1 ถึงที่ 3 ลำดับใดลำดับหนึ่ง ขอให้มีคำสั่งให้ผลการนับคะแนนเมื่อวันที่13 กันยายน 2535 ที่ผ่านมาเป็นโมฆะและให้ถือเอาผลการนับคะแนนที่นับใหม่เป็นคะแนนที่ถูกต้อง
ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ยื่นคำคัดค้านว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานีในเขตเลือกตั้งที่ 4ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดไว้ขอให้ยกคำร้อง
ผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 6 ยื่นคำคัดค้านว่า คำร้องของผู้ร้องไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2522 มาตรา 78 ประกอบมาตรา 51 คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ทั้งคำร้องก็มิได้ระบุว่าหากมีการตรวจนับคะแนนใหม่จะทำให้คะแนนของผู้ร้องหรือผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอที่จะให้ศาลมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ขอให้ยกคำร้อง
ผู้คัดค้านที่ 7 ยื่นคำแถลงว่าไม่ติดใจที่ผู้ร้องขอให้มีการนับคะแนนใหม่
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงสั่งงดการไต่สวนและทำความเห็นส่งสำนวนมาศาลฎีกาว่า คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุมเห็นควรให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 78 บัญญัติไว้ว่าเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศผลการเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งใดผู้สมัครเห็นว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นหรือเห็นว่าการที่บุคคลใดได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 51 ผู้สมัครมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลจังหวัดที่เขตเลือกตั้งนั้นตั้งอยู่ภายใน 30 วัน เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่คำร้องของผู้ร้องอ้างเพียงว่า ผู้ร้องได้ติดตามผลการนับคะแนนทุกระดับของทางราชการในเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรในเขตนี้ปรากฏว่า ผลการนับคะแนนที่ทางราชการประกาศแจ้งให้ทราบที่แผ่นป้ายหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี คะแนนรวมของผู้ร้องที่ประกาศไว้ได้ 41,516 คะแนน ไม่ตรงกับยอดการนับคะแนนของอำเภอเขมราฐ อำเภอชานุมาน และอำเภอกุดข้าวปุ้น กรณีมีเหตุเคลือบแคลงสงสัยว่าคณะกรรมการจะหลงลืมหรือผิดพลาด ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนไม่ตรงกับความจริง ขอให้ศาลไต่สวนและนับคะแนนในหน่วยเลือกตั้งในอำเภอทั้งสามใหม่ หากผลการนับคะแนนในสามอำเภอใหม่ หากผลการนับคะแนนในสามอำเภอรวมกับอำเภออื่นแล้วผู้ร้องได้คะแนนอยู่ในลำดับที่ 1 ถึงที่ 3 ขอให้มีคำสั่งให้ผลการนับคะแนนเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2535 ที่ผ่านมาเป็นโมฆะและให้ถือเอาผลการนับคะแนนใหม่เป็นคะแนนที่ถูกต้อง ซึ่งตามคำขอของผู้ร้องดังกล่าวนี้ผู้ร้องประสงค์เพียงให้นับคะแนนใหม่และให้ถือผลการนับคะแนนใหม่เท่านั้น หาได้ร้องคัดค้านเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ไม่ คำร้องของผู้ร้อง จึงมิใช่คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว และไม่มีบทบัญญัติใดให้สิทธิแก่ผู้ร้องที่จะร้องคัดค้านขอให้มีการนับคะแนนใหม่และถือเอาผลการนับคะแนนใหม่ได้ คำร้องของผู้ร้องจึงไม่ใช่กรณีที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 79 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องคัดค้านการเลือกตั้งเป็นคดีนี้ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไปว่า คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุมดังความเห็นของศาลชั้นต้นหรือไม่
ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง