คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกับปล้น+และใช้สาตราวุธตีแทงและฟันเจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บหลายแห่ง เจ้าทรัพย์ทนพิษบาดแผลไม่ได้ถึงแก่ความตายในทันใดนั้นเอง ทั้งนี้เพื่อความสดวกในการที่จะหลีกเลี่ยงอาญาและเพื่อจะเอาประโยชน์จากการกระทำผิด ไม่ได้บรรยายไว้ด้วยว่าในการทำร้ายเจ้าทรัพย์นั้นจำเลยมีเจตนาจะฆ่าเจ้าทรัพย์ให้ตายโดยเจตนาด้วยดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษตามมาตรา 250 ด้วย แม้โจทก์จะได้อ้างมาตรา 250 มาในคำขอท้ายฟ้องด้วยก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250 หาได้ไม่ทางลงโทษจำเลยได้แต่ตามมาตรา 301 ตอนท้ายเท่านั้น
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2494)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก ๓ คนมีสาตราวุธสมคบกันปล้นทรัพย์ของนายเหรียญไปรวมราคา ๕๖๓๖ บาท ๓๕ สตางค์ และในการปล้นนี้ จำเลยใช้ไม้ตะบองตี มีดแทงขวานฟันนายเหรียญเจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บหลายแห่ง นายเหรียญทนพิษบาดแผลไม่ได้ถึงแก่ความตายในทันใดนั้นเอง ทั้งนี้เพื่อความสดวกในการที่จะหลีกเลี่ยงอาญา และเพื่อจะเอาประโยชน์จากการกระทำผิด ขอให้โทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๑,๒๕๐
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๑,๒๕๐ พิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง ๒ ให้ตายตกไปตามกัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องจริง แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์เรื่องนี้ ศาลฎีกาได้ปรึกษาโดยที่ประชุมใหญ่แล้วพร้อมกันเห็นว่า ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๕๐ ด้วย แม้โจทก์ได้อ้างมาตรา ๒๕๐ มาในคำขอท้ายฟ้องด้วยก็ดี ก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๕๐ หาได้ไม่ ที่ศาลล่างทั้ง ๒ วางบทมาตรา ๒๕๐ ลงโทษจำเลยมาด้วย จึงคลาดเคลื่อนอยู่
จึงพิพากษาแก้ศาลล่าง ให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๒ ตามมาตรา ๓๐๑ ตอนท้ายแต่มาตราเดียว มีกำหนดจำคุกตลอดชีวิต

Share