คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีก่อนโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมโดยมิได้เรียกร้องค่าจ้างหรือค่าเสียหายในระหว่างถูกเลิกจ้างซึ่งโจทก์สามารถเรียกร้องมาในคราวเดียวกันได้การที่โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่เพื่อเรียกค่าจ้างที่จำเลยค้างชำระตั้งแต่วันเลิกจ้างจนถึงวันรับโจทก์กลับเข้าทำงานซึ่งมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยโดยอาศัยมูลฐานเดียวกันกับคดีก่อนจึงเป็นฟ้องซ้ำ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างสำหรับระยะเวลาตั้งแต่วันเลิกจ้างถึงวันรับโจทก์กลับเข้าทำงาน
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยต่อมาวันที่ 16 สิงหาคม 2526 จำเลยเลิกจ้างโจทก์โจทก์จึงฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางกล่าวหาว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ไม่เป็นธรรม ขอให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างเท่าเดิม จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีถึงที่สุด ครั้นถึงที่สุด ครั้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2528จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามคำพิพากษา แต่จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างสำหรับระยะเวลาตั้งแต่วันเลิกจ้างถึงวันรับโจทก์กลับเข้าทำงานโจทก์จึงฟ้องเรียกค่าจ้างสำหรับระยะเวลาดังกล่าวจากจำเลยเป็นคดีนี้
และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ไม่เป็นธรรมนั้นนอกจากจะเป็นมูลฐานก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องจำเลยให้รับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมแล้วยังก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องค่าจ้างหรือค่าเสียหายที่โจทก์ควรได้รับในระหว่างถูกเลิกจ้างด้วย สิทธิเรียกค่าจ้างหรือค่าเสียหายของโจทก์นั้นจึงมีอยู่ก่อนที่โจทก์จะฟ้องคดีก่อน เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อนขอให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิม โดยมิได้เรียกร้องค่าจ้างหรือค่าเสียหายในระหว่างถูกเลิกจ้างซึ่งโจทก์สามารถเรียกร้องรวมมาในคราวเดียวกันแต่กลับมาฟ้องเรียกค่าจ้างในระหว่างถูกเลิกจ้างจากจำเลยเป็นคดีนี้ ซึ่งประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีทั้งสองอาศัยมูลฐานเดียวกัน จึงเป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31
พิพากษายืน.

Share