คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่จะนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีหลังตาม ป.อ. มาตรา 58 นั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีความปรากฏแก่ศาลเองหรือปรากฏตามคำแถลงของโจทก์หรือเจ้าพนักงานก็ตาม จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าจำเลยยอมรับหรือไม่คัดค้านในข้อที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกในคดีก่อน และโทษจำคุกนั้นศาลให้รอการลงโทษไว้ ศาลจึงจะนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกในคดีหลังได้
คดีนี้จำเลยให้การว่า “ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา” เป็นเพียงการยอมรับว่ากระทำผิดตามฟ้องเท่านั้น มิได้ยอมรับว่าเคยต้องโทษถึงที่สุดในคดีก่อนตามที่โจทก์อ้างมาในคำฟ้องที่ศาลชั้นต้นนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้จึงไม่ถูกต้องแต่การที่จำเลยบรรยายในคำฟ้องอุทธร์ว่า “เมื่อจำเลยต้องคำพิพากษาในคดีก่อนและศาลอุทธรณ์รอการลงโทษ” และในตอนท้ายอุทธรณ์ยังยอมรับอย่างชัดแจ้งว่าขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยในสถานเบาและนำโทษที่ศาลอุทธรณ์ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7608/2543 ที่ศาลรอการลงโทษมาบวกเข้ากับคดีนี้ ถือได้ว่าความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์คดีนี้และจำเลยยอมรับในข้อที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญาของศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์คดีดังกล่าวพิพากษาให้รอการลงโทษไว้ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7608/2543 แล้ว ดังนั้น ศาลอุทธรณ์จึงนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287, 33 และบวกโทษจำคุกของจำเลยที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าวเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 ลงโทษจำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า หนังสือลามกของกลางมีเป็นจำนวนมาก เป็นภัยต่อศีลธรรมอันดีและสังคม ประกอบกับศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเป็นคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7608/2543 ลงวันที่ 15 กันยายน 2543 ให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีแล้วจำเลยกลับมากระทำความผิดในลักษณะเช่นเดียวกันโดยไม่สำนึก จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษและให้นำโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3623/2543 ของศาลชั้นต้น บวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ รวมเป็นจำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่บวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ 3623/2543 ของศาลชั้นต้น โดยให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้นำโทษจำคุกในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายขอให้นำโทษจำคุก 3 เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3623/2543 ของศาลชั้นต้นมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่าการที่จะนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยที่ศาลพิพากษาในคดีหลังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 นั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ความปรากฏแก่ศาลเอง หรือความปรากฏตามคำแถลงของโจทก์หรือเจ้าพนักงานก็ตาม จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า จำเลยยอมรับหรือไม่คัดค้านในข้อที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีก่อนที่ให้ลงโทษจำคุกและโทษจำคุกนั้นศาลให้รอการลงโทษไว้เสียก่อน ศาลจึงจะนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกในคดีหลังได้ คดีนี้จำเลยให้การว่า “ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา” อันเป็นเพียงการยอมรับว่ากระทำความผิดตามฟ้องเท่านั้น มิได้ยอมรับว่าเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีก่อนตามที่โจทก์อ้างมาในคำฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3623/2543 ของศาลชั้นต้นมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้จึงไม่ถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตามการที่จำเลยบรรยายในคำฟ้องอุทธรณ์ว่า “เมื่อจำเลยต้องคำพิพากษาในคดีก่อน และศาลอุทธรณ์รอการลงโทษ” และในตอนท้ายอุทธรณ์ยังยอมรับอย่างชัดแจ้งยิ่งขึ้นว่า ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยคดีนี้ในสถานเบาและ “นำโทษที่ศาลอุทธรณ์ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7608/2543 ที่ศาลรอการลงโทษมาบวกเข้ากับคดีนี้” ถือได้ว่าความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์คดีนี้และจำเลยยอมรับในข้อที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3623/2543 ของศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน และศาลอุทธรณ์คดีดังกล่าวพิพากษาให้รอการลงโทษไว้ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7608/2543 แล้ว ดังนั้น ศาลอุทธรณ์คดีนี้จึงชอบที่จะนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3623/2543 ของศาลชั้นต้น มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ได้ การที่ศาลอุทธรณ์คดีนี้ยกคำขอให้บวกโทษของโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share