แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ครอบครองทรัพย์ แม้มิใช่เป็นเจ้าของ ก็เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ได้ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยักยอก
จำเลยให้การปฎิเสธ
นางอุทัยรัตน์ ชุมนุมพันธ์ ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) นั้น ไม่จำต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ หากแต่เป็นผู้ครอบครองทรัพย์ก็เป็นผู้เสียหายตามบทมาตราดังกล่าวด้วยในเมื่อฟ้องได้บรรยายระบุว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครอบทรัพย์ตามฟ้องและจากการนำสืบโจทก์ร่วมก็เบิกความยืนยันข้อเท็จจริงตามฟ้องดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นอาศัยข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์ร่วมไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ตามฟ้องอย่างเดียวมาเป็นข้อวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์โดยมิได้วินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมได้ครอบครองทรัพย์ตามฟ้องตลอดไปจนถึงข้อที่ว่าจำเลยได้รับทรัพย์ตามฟ้องไปจากโจทก์ร่วม และเบียดบังเอาไว้ด้วยหรือไม่ จึงเป็นการมิชอบ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน