แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดได้รับอนุญาตให้จัดหางานให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศและได้รับจัดหางานให้โจทก์กับพวกไปทำงานในต่างประเทศกับบริษัท ค. โจทก์กับพวกได้เดินทางไปทำงานกับบริษัทดังกล่าว ต่อมาบริษัทดังกล่าวค้างจ่ายค่าจ้างโจทก์กับพวก แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าบริษัท ค. ได้แต่งตั้งให้จำเลยเป็นตัวแทนหรือไม่ และสัญญาจ้างแรงงานที่บริษัท ค. ทำกับโจทก์กับพวกนั้น จำเลยได้ลงลายมือชื่อในสัญญาแทนบริษัท ค. หรือไม่ ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาจึงยังไม่พอแก่การวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทอันเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่ และจำเลยต้องรับผิดจ่ายค่าจ้างที่บริษัท ค. ค้างจ่ายแก่โจทก์กับพวกหรือไม่ เพียงใด ดังนั้น ที่ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงในประเด็นเรื่องจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัท ค. แล้วพิพากษาให้จำเลยรับผิดตามฟ้อง จึงเป็นการไม่ชอบ จึงให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวเพิ่มเติมให้สิ้นกระแสความ
ย่อยาว
คดีทั้งสิบเอ็ดสำนวนศาลแรงงานกลางสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันโดยให้เรียกโจทก์ว่าโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 11 ตามลำดับสำนวน
โจทก์ทั้งสิบเอ็ดฟ้องใจความทำนองเดียวกันว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2542 จำเลยในฐานะตัวแทนบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด นายจ้างตัวการที่อยู่ประเทศไต้หวันและมีภูมิลำเนาอยู่ประเทศไต้หวัน ทำสัญญาจัดหางานเพื่อส่งโจทก์ทั้งสิบเอ็ดไปทำงานในต่างประเทศและทำสัญญาจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างทำงาน ณ ประเทศไต้หวัน ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2544 บริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ไม่มีงานให้ทำและส่งโจทก์ทั้งสิบเอ็ดกลับประเทศไทยโดยค้างค่าจ้างของเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2544 เป็นเงิน37,500 บาท 36,100 บาท 41,650 บาท 32,600 บาท 33,200 บาท 33,600 บาท 32,400 บาท 56,000 บาท 37,000 บาท 12,000 บาท และ 28,000 บาท ตามลำดับโดยตกลงจ่ายให้ภายในเดือนมีนาคม 2544 แต่เมื่อถึงกำหนดไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแต่ละจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ดตามลำดับ
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบกิจการรับจัดหางานไปทำงานต่างประเทศ โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม จำเลยไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นนายจ้างที่อยู่ต่างประเทศ จำเลยในฐานะบริษัทจัดหางานจัดส่งโจทก์ทั้งสิบเอ็ดไปทำงานต่างประเทศโดยมุ่งหวังผลกำไรหรือค่าบริการอันเป็นธุรกิจปกติของจำเลย และไม่มีนิติสัมพันธ์ในลักษณะนายจ้างและลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือนายจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5(1)(2)(3) ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 37,500 บาท 36,100 บาท 31,650บาท 32,600 บาท 33,200 บาท 33,600 บาท 32,400 บาท 56,000 บาท 37,000 บาท12,000 บาท และ 28,000 บาท แก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ดตามลำดับ
จำเลยทั้งสิบเอ็ดสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยข้อแรกว่า จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าจ้างให้แก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ดเนื่องจากจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ที่ประเทศไต้หวัน อันเป็นตัวการซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 ตามที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาหรือไม่ เห็นว่า จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นนายจ้างที่อยู่ต่างประเทศ ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงเพียงว่าจำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ได้รับอนุญาตให้จัดหางานให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จำเลยรับจัดหางานให้โจทก์ทั้งสิบเอ็ดไปทำงานกับบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ตามสัญญาจัดหางานเพื่อให้คนงานไปทำงานต่างประเทศเอกสารหมาย จ.4 โจทก์ทั้งสิบเอ็ดเดินทางไปทำงานกับบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ที่ประเทศไต้หวันเป็นเวลา 1 ปี 2 เดือน ถึง 1 ปี 5 เดือน ซึ่งบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ยังค้างจ่ายค่าจ้างโจทก์ทั้งสิบเอ็ดจำนวนคนละ 2 เดือน ตามบัญชีค่าจ้างค้างจ่ายเอกสารหมาย จ.5 ซึ่งข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาดังกล่าวไม่ปรากฏว่าบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ได้แต่งตั้งให้จำเลยเป็นตัวแทนหรือไม่ และในสัญญาจ้างแรงงานที่บริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ทำกับโจทก์ทั้งสิบเอ็ดนั้น จำเลยได้ลงลายมือชื่อในสัญญาแทนบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด หรือไม่ อีกทั้งมีระเบียบของกรมการจัดหางานว่าด้วยการขออนุญาตจัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กำหนดให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้จัดหางานต้องแนบหนังสือของนายจ้างในต่างประเทศที่แต่งตั้งให้บริษัทจัดหางานเป็นตัวแทนมาด้วยหรือไม่ ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาจึงยังไม่พอแก่การวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัดอันเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่ และจำเลยต้องรับผิดจ่ายค่าจ้างที่บริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ค้างจ่ายแก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ดหรือไม่เพียงใด ดังนั้น ที่ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงในประเด็นเรื่องจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด แล้วพิพากษาให้จำเลยรับผิดตามฟ้อง จึงเป็นการไม่ชอบ จึงให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวเพิ่มเติมให้สิ้นกระแสความ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยอีกต่อไป”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า บริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ได้แต่งตั้งให้จำเลยเป็นตัวแทนหรือไม่ จำเลยได้ลงลายมือชื่อในสัญญาจ้างแรงงานที่บริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด ทำกับโจทก์ทั้งสิบเอ็ดแทนบริษัทคุณไทก่อสร้าง จำกัด หรือไม่ และมีระเบียบของกรมการจัดหางานกำหนดให้บริษัทผู้ได้รับอนุญาตให้จัดหางานต้องแนบหนังสือของนายจ้างในต่างประเทศที่แต่งตั้งให้บริษัทจัดหางานเป็นตัวแทนมาด้วยหรือไม่ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี