คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5086/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 กล่าวถึงเฉพาะด้านผู้ครอบครองว่าถ้าได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นติดต่อกันนาน 10 ปี แล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์ การนับระยะเวลาการครอบครองที่ดินของจำเลยในระหว่างที่เป็นกรรมสิทธิของ ก. ติดต่อมาจนตกเป็นของโจทก์ สามารถนับรวมกันได้ เมื่อรวมเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 5616เนื้อที่ 1 งาน 85 ตารางวา โดยนางสาวกิมจิว วานิชรัตน์จดทะเบียนยกกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์ และโจทก์ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าวมาจนกระทั่งปัจจุบัน ต่อมาโจทก์ตรวจสอบแนวเขตที่ดินตามโฉนดเลขที่ 2984 ทราบว่าจำเลยปลูกบ้านเลขที่ 38/17 รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์เป็นเนื้อที่ 38 ตารางวา โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนบ้านดังกล่าวออกไปแล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านเลขที่ 38/17 หมู่ที่ 6ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรีส่วนที่รุกล้ำออกจากที่ดินของโจทก์ และห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์กับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 1,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ 5616เป็นเนื้อที่ 38 ตารางวา ของโจทก์ ด้วยการปลูกสร้างบ้านชั้นเดียวเลขที่ 38/17 หมู่ที่ 6 จริง จำเลยครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตั้งแต่กลางปี 2516จนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว โจทก์และผู้แทนโจทก์ไม่เคยโต้เถียงกับครอบครองที่ดินส่วนหนึ่งส่วนใดของโฉนดที่ดินเลขที่ 5616 และการที่โจทก์ได้รับการจดทะเบียนยกให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 5616 นั้นเป็นการยกให้โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทนทั้งโจทก์ทราบดีแล้วว่าจำเลยครอบครองที่ดินแปลงพิพาทอยู่ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านเลขที่ 38/17 หมู่ที่ 6 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดนนทบุรีเนื้อที่ 38 ตารางวา ส่วนที่รุกล้ำตามเส้นสีเขียวในแผนที่พิพาทเอกสารในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่ 977/2534 ของศาลชั้นต้นออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 5616 ตำบลจันทนิมิต (ท่าเรือจ้าง)อำเภอจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ของโจทก์ และห้ามจำเลยรวมทั้งบริวารของจำเลยเกี่ยวข้องที่ดินดังกล่าวด้วย คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฎีกาข้อแรกว่า การนับระยะเวลาครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ไม่สามารถนับระยะเวลาที่จำเลยครอบครองที่พิพาทระหว่างที่เป็นกรรมสิทธิ์ของนางกิมจิวและของโจทก์รวมกันได้ จำเลยจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์นั้น เห็นว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 กล่าวถึงเฉพาะด้านผู้ครอบครองเท่านั้นว่า ถ้าผู้ครอบครองได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ในบทบัญญัติดังกล่าวติดต่อกันนาน 10 ปีแล้ว ย่อมได้กรรมสิทธิ์ ดังนั้น การนับระยะเวลาการครอบครองที่พิพาทของจำเลยในระหว่างที่เป็นกรรมสิทธิ์ของนางกิมจิวติดต่อมาจนตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์สามารถนับรวมกันได้ เมื่อปรากฏว่ารวมเป็นระยะเวลาทั้งสิ้นเกือบ 20 ปี จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share