แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินทิปที่โจทก์ได้รับจากลูกค้าของจำเลยคือเงินที่พนักงานบริการได้รับจากผู้ใช้บริการโดยตรง จำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จำเลยยอมให้พนักงานบริการแต่ละคนรับไปเองได้โดยตรง มิใช่เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงาน จึงมิใช่ค่าจ้างตามความหมายของคำว่าค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ โจทก์ทั้งสองได้รับค่าจ้างเดือนละ 500 บาท ซึ่งต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ลาออก นับแต่วันที่โจทก์เข้าทำงานจนถึงวันที่โจทก์ที่ 1ถูกเลิกจ้างและโจทก์ที่ 2 ลาออกจำเลยจึงต้องจ่ายค่าจ้างให้โจทก์อีก ขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างที่ค้างเพื่อให้ครบตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าโจทก์สมัครใจเข้าทำงานโดยประสงค์จะรับค่าตอบแทนจากเงินรางวัลมากกว่าจะขอรับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง เท่ากับโจทก์สละสิทธิที่จะรับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างแก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2
ผู้พิพากษาฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างมีความเห็นแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า เงินทิปที่โจทก์ได้รับจากลูกค้าของจำเลยหรือเงินทิปส่วนตัว คือเงินที่พนักงานบริการได้รับจากผู้ใช้บริการโดยตรง จำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จำเลยยอมให้พนักงานบริการแต่ละคนรับไปเองได้โดยตรง มิใช่เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงาน จึงมิใช่ค่าจ้างตามความหมายของคำว่าค่าจ้าง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2515 ข้อ 2
พิพากษายืน