คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5081/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ด้วย จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์ 353,553.42 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 340,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 315,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 340,000 บาทนับแต่วันที่ 22 กันยายน 2537 ถึงวันที่ 16 เมษายน 2538 และจากต้นเงิน 315,000 บาท นับแต่วันที่ 17 เมษายน 2538จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 6,000 บาท สำหรับจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2ให้เป็นพับ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 315,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีจากต้นเงิน 340,000 บาท นับแต่วันที่ 22 กันยายน 2537ถึงวันที่ 16 เมษายน 2538 และจากต้นเงิน 315,000 บาทนับแต่วันที่ 17 เมษายน 2538 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความรวม 8,000 บาท

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้คู่ความไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ด้วย จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข

พิพากษายืน แต่จำเลยที่ 1 ไม่ต้องร่วมกับจำเลยที่ 2ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ ให้จำเลยที่ 2ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 6,000 บาท แทนโจทก์

Share