คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่ขายอันผู้ขายจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472 นั้น จะต้องเป็นความชำรุดบกพร่องที่มีอยู่ก่อนแล้ว หรือมีอยู่ในขณะทำสัญญาซื้อขายหรือในเวลาส่งมอบทรัพย์สินที่ขายส่วนความชำรุดบกพร่องที่มีขึ้นภายหลังผู้ขายหาต้องรับผิดไม่ ปรากฏว่าก่อนที่จำเลยรับมอบเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทจากโจทก์ จำเลยได้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องแล้ว ซึ่งสามารถใช้การได้ดี แสดงว่าเครื่องผลิตไอศกรีมดังกล่าวมิได้มีความชำรุดบกพร่องอยู่ก่อนหรือในขณะทำสัญญาซื้อขายหรือในเวลาส่งมอบ ดังนั้น การที่เครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทเกิดชำรุดบกพร่องหลังจากใช้งานไปได้เกือบ 1 ปี จึงเป็นความชำรุดบกพร่องนี้ไม่ จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงราคาที่ยังไม่ได้ชำระตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 488

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อเครื่องผลิตไอศกรีมพร้อมอุปกรณ์ไปจากโจทก์ ราคา295,735.16 บาท จำเลยได้รับสินค้าไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้วแต่ไม่ชำระค่าสินค้าดังกล่าว จึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันถึงกำหนดชำระค่าสินค้าจนกว่าจะชำระเสร็จ คิดดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 25,644.94 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 321,380.10 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 295,735.16 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่า โจทก์จัดส่งสินค้าที่ด้อยคุณภาพไปให้จำเลย เมื่อจำเลยส่งมอบสินค้าดังกล่าวแก่ลูกค้าปรากฏว่าไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ จำเลยแจ้งให้โจทก์ทราบเพื่อให้โจทก์ซ่อมแซมแก้ไขแต่โจทก์เพิกเฉย จำเลยจึงสั่งระงับการจ่ายเงินค่าสินค้าขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 295,735.16 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 29 มีนาคม 2540 จนกว่าจะชำระเสร็จ เฉพาะดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องไม่เกิน 25,644.94 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 260,395.20 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 29 มีนาคม 2540 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า จำเลยซื้อเครื่องผลิตไอศกรีมยี่ห้อ CARPIGIANI MODEL 253/P จากโจทก์จำนวน 1 เครื่อง ราคาเครื่องรวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 260,395.20 บาท โจทก์จัดส่งและจำเลยได้รับมอบไปเรียบร้อยแล้ว แต่จำเลยก็ยังมิได้ชำระราคา คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงว่า เครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทที่โจทก์ส่งมอบแก่จำเลยมีความชำรุดบกพร่องจนเป็นเหตุให้จำเลยไม่จำต้องชำระราคาหรือไม่ เห็นว่า ตามพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยปรากฏว่า ก่อนที่จำเลยจะตกลงซื้อเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทนั้น จำเลยได้ตรวจดูแคตตาล็อกมาก่อนล่วงหน้า 2 ถึง 3 เดือน ในวันที่นายวศิน ทรัพยะสุต พนักงานขายของโจทก์นำเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทไปส่งมอบแก่จำเลยได้มีการทดลองการใช้เครื่องจนเป็นที่พอใจแล้วว่า เครื่องดังกล่าวสามารถใช้การได้ดี จึงมีการลงลายมือชื่อรับมอบเครื่องไว้ ซึ่งก็ถือได้ว่าโจทก์ได้จัดการส่งมอบสินค้าที่จำเลยซื้อโดยครบถ้วนถูกต้องแล้ว นายอรรถกร จารุเธียร กรรมการผู้จัดการจำเลยเบิกความตอบคำถามค้านของทนายโจทก์ว่า เครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทปรากฏความชำรุดบกพร่องให้เห็นหลังจากรับเครื่องไว้ใช้งานแล้วเกือบ 1 ปี ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ทุกชนิดที่ต้องถูกใช้งานเพื่อการอุตสาหกรรมต้องทำงานตลอดเวลาจะต้องปรากฏความชำรุดบกพร่องบ้าง อีกทั้งนายวศินก็ยังยืนยันอีกว่านับแต่จำเลยรับเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาท นายวศินได้ติดตามทวงหนี้ซึ่งจำเลยได้ขอผัดผ่อนเรื่อยมาถึง 3 ครั้งโดยไม่เคยโต้แย้งว่าเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทมีการชำรุดบกพร่องเลย และจากทางนำสืบของจำเลยเองก็ปรากฏว่าความชำรุดบกพร่องดังกล่าวเกิดภายหลังจากการส่งมอบเกือบ 1 ปี ดังนี้ จึงเห็นว่า โจทก์ได้ส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสมบูรณ์ถูกต้องตรงตามสัญญาแล้ว ชอบที่จำเลยจะต้องชำระราคาแก่โจทก์ การที่จำเลยไม่ชำระราคาย่อมถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัดจำต้องชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ด้วย ที่จำเลยฎีกาโต้แย้งว่า เมื่อจำเลยพบความชำรุดบกพร่องจำเลยได้แจ้งทางโทรศัพท์ให้โจทก์ทราบเพื่อให้มาทำการแก้ไขซึ่งโจทก์ก็เพิกเฉย จำเลยจึงมีหนังสือแจ้งโจทก์เป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง โจทก์ก็ยังเพิกเฉยไม่ยอมมาทำการแก้ไขให้นั้น เห็นว่าตามหนังสือดังกล่าวนั้นเป็นการแจ้งว่าเครื่องผลิตไอศกรีม MODEL 253/BAR/Pจำนวน 48 เครื่อง เกิดความชำรุดบกพร่องหาใช่เครื่องผลิตไอศกรีม MODEL253/P ซึ่งเป็นเครื่องพิพาทไม่ ดังนั้นข้ออ้างของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น ที่จำเลยฎีกาโต้แย้งว่าที่นายวศินเบิกความว่า ในวันที่นำเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทไปส่งมอบแก่จำเลยนั้นได้มีการทดลองการใช้เครื่องดังกล่าว ปรากฏว่าเครื่องสามารถใช้การได้ดีทางจำเลยจึงลงลายมือชื่อรับมอบเครื่องไว้นั้นไม่น่าเชื่อถือเพราะนายวศินเป็นเพียงพนักงานขายไม่ใช่ช่างและนายวศินเพียงแต่นำแคตตาล็อกไปแสดงให้จำเลยดู แต่ไม่ได้นำเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทไปส่งนั้น เห็นว่า เครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทมีราคาถึง 260,395.20 บาท หากนายวศินเพียงแต่นำแคตตาล็อกไปให้จำเลยดูโดยไม่ได้นำเครื่องดังกล่าวไปทดลองให้จำเลยดูการปฏิบัติงานของเครื่องว่าทำงานได้เรียบร้อยดีหรือไม่แล้ว ก็เชื่อว่าจำเลยคงไม่ลงลายมือชื่อรับเครื่องไว้อย่างแน่นอนและแม้นายวศินจะไม่ใช่ช่าง แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าการที่จะขายสินค้าชนิดใดแก่ลูกค้านั้น พนักงานขายจะต้องมีความรอบรู้เกี่ยวกับสินค้าชนิดนั้นว่า มีสมรรถนะในการทำงานอย่างไร บำรุงรักษาอย่างไรด้วย อีกทั้งหากมีความชำรุดบกพร่องดังที่จำเลยอ้างเกิดขึ้นตั้งแต่ขณะทดลองใช้เครื่องดังกล่าวจริงแล้ว ก็เชื่อว่านายวศินจะต้องเห็นและจำเลยจะไม่รับเครื่องไว้ แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยยอมรับมอบเครื่องไว้ทันทีโดยมิได้โต้แย้งประการใด ทั้งยังได้ขายเครื่องดังกล่าวให้แก่บริษัทคีย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ด จำกัด และบริษัทดังกล่าวสามารถใช้เครื่องผลิตไอศกรีมได้เช่นนี้ ข้ออ้างของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยฎีกาโต้แย้งอีกว่าการที่โจทก์เพิกเฉยไม่มาทำการซ่อมแซมแก้ไขเครื่องให้จำเลยจึงมีสิทธิที่จะยึดหน่วงไม่ชำระราคาแก่โจทก์ได้นั้น เห็นว่า ความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่ขายอันผู้ขายจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472 นั้น จะต้องเป็นความชำรุดบกพร่องที่มีอยู่ก่อนแล้ว หรือมีอยู่ในขณะทำสัญญาซื้อขายหรือในเวลาส่งมอบทรัพย์สินที่ขาย ส่วนความชำรุดบกพร่องที่มีขึ้นภายหลังผู้ขายหาต้องรับผิดไม่ คดีนี้ก่อนที่จำเลยจะรับมอบเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทจากโจทก์จำเลยได้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องแล้วปรากฏว่าเครื่องสามารถใช้การได้ดีแสดงให้เห็นว่าเครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทมิได้มีความชำรุดบกพร่องอยู่ก่อนหรือในขณะทำสัญญาซื้อขายหรือในเวลาส่งมอบ ฉะนั้น ที่เครื่องผลิตไอศกรีมพิพาทเกิดชำรุดบกพร่องหลังจากใช้งานไปได้เกือบ 1 ปี จึงเป็นความชำรุดบกพร่องที่มีขึ้นภายหลังอันเกิดจากการใช้งาน โจทก์หาต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องนี้ไม่ ด้วยเหตุนี้จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงราคาที่ยังไม่ได้ชำระตามมาตรา 488 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ข้ออ้างของจำเลยข้อนี้จึงฟังไม่ขึ้นเช่นกันที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share