คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความตกลงกันให้ถือเอาข้อแพ้ชนะจากการที่จำเลยกับพวกอีก 2 คน กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบานหรือไม่ ถึงวันนัด ว. พวกของจำเลยคนหนึ่งใน 2 คน ไม่ยอมสาบานและดื่มน้ำสาบาน โดยแถลงต่อศาลว่าไม่กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบานเพราะบุตรห้ามเกรงว่าคำสาบานจะติดถึงลูกหลานแม้จะอ้างเหตุดังกล่าวก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบาน คดีต้องเป็นไปตามที่คู่ความได้ท้ากันทุกประการ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดิน 1 แปลง นายปรินน้องชายโจทก์ได้นำไปประกันเงินกู้จากจำเลย ตกลงกันว่าเมื่อมีเงินชำระหนี้เมื่อใดจำเลยก็ยินยอมให้ไถ่คืนต่อมา นายปรินถึงแก่กรรม โจทก์ขอไถ่ จำเลยไม่ยอมอ้างว่าเป็นของจำเลย ขอให้พิพากษาว่าที่ดินเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรับเงินค่าไถ่ที่ดิน

จำเลยให้การว่านายปรินได้ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยเกิน 10 ปีแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ

ชั้นพิจารณา คู่ความท้ากันว่าถ้าจำเลย นายพวงกับนายเวียงกล้าดื่มน้ำสาบานเฉพาะพระพักตร์พระพุทธปฏิมากรในอุโบสถวัดบ้านสำโรงพลัน และต่อหน้าพระสงฆ์ 7 รูปว่า ที่พิพาทจำเลยซื้อจากนายปริน โดยนายพวงเป็นคนเขียนสัญญา นายเวียงเป็นคนรู้เห็นและลงชื่อเป็นพยานในสัญญาแล้ว โจทก์ยอมแพ้คดี หากจำเลยและพยานจำเลยดังกล่าวไม่กล้าสาบาน จำเลยยอมแพ้คดี ครั้นถึงวันนัดนายเวียงไม่กล้าสาบานตามที่ท้ากัน

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อนายเวียงไม่ยอมสาบานและดื่มน้ำสาบาน โดยนายเวียงนี้เป็นพยานรู้เห็นและลงชื่อในสัญญาซื้อขายที่นาพิพาท ได้แถลงต่อศาลว่าไม่กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบาน เพราะบุตรห้ามเกรงว่าคำสาบานจะติดถึงลูกหลาน ดังนี้ แม้นายเวียงจะอ้างเหตุว่าเพราะบุตรห้ามก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบาน คดีต้องเป็นไปตามที่คู่ความได้ท้ากันทุกประการ

พิพากษายืน

Share