แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยให้จำเลยชำระค่าภาษีจำเลยได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อศาลตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30(2)แล้ว คำวินิจฉัยดังกล่าวอาจถูกเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนโดยคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลได้ กรมสรรพากรมีสิทธิจะได้รับชำระค่าภาษีหรือไม่จึงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลเสียก่อน ดังนั้น ขณะที่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล กรมสรรพากรไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยชำระค่าภาษีดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ได้ประเมินให้จำเลยที่ 1 ซึ่งมีจำเลยที่ 2เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการชำระภาษีการค้าและแจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบแล้วจำเลยที่ 1 อุทธรณ์การประเมิน คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยว่า การประเมินชอบแล้ว แต่จำเลยที่ 1 ไม่ชำระภาษีกลับยื่นฟ้องต่อศาล คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา บัดนี้ใกล้จะครบกำหนด10 ปี นับแต่จำเลยได้รับแจ้งการประเมินแล้ว ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าภาษี ในระหว่างการพิจารณาข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยที่ 2ถึงแก่กรรมก่อนโจทก์ฟ้องคดีศาลภาษีอากรกลางเห็นว่า ฐานะของนิติบุคคลสิ้นสุดลงก่อนโจทก์ฟ้องคดี พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว ในกรณีที่ผู้ต้องเสียภาษีอากรอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 30(2) และคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น เป็นที่เห็นได้ว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์พิจารณาแล้วมีคำวินิจฉัยเห็นชอบอาจจะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิกถอนโดยคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลได้ กรมสรรพากรมีสิทธิที่จะได้รับชำระภาษีอากรตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยแล้วหรือไม่ จึงต้องรอคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลเสียก่อน มิฉะนั้นบทบัญญัติว่าด้วยการอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากรที่กล่าวมาแล้วก็จะไร้ผล คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏตามฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ผู้ต้องเสียภาษีอากรอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาล และคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คดียังไม่ถึงที่สุดโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นพ้องด้วยในผล”
พิพากษายืน