แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นจะโอนแก่กันไม่ได้ เว้นแต่จะอาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1305
แม้จำเลยจะได้รับโอนที่ดินมารวมทั้งคูรายพิพาทซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยก็หามีกรรมสิทธิ์ในคูรายพิพาทนั้นด้วยไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ปักเสาขึงลวดหนามปิดกั้นแนวเขตริมคูหน้าตึกแถวที่โจทก์สร้างขึ้น มิให้โจทก์และผู้ที่จะมาเช่าอยู่ผ่านข้ามคู่สาธารณะใช้ถนนสาธารณะไปมาได้ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยรื้อถอน
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยกั้นรั้วเพื่อซ่อมแซมรั้วเก่าในที่ดินของจำเลยซึ่งไม่เคยยกให้เป็นที่สาธารณะ โจทก์ไม่เคยบอกกล่าวให้จำเลยทราบ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและทำให้จำเลยเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าคูและถนนพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จะโอนแก่กันหรือจะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับแผ่นดินมิได้ ให้จำเลยรื้อถอนรั้วลวดหนามที่ปิดกั้นหน้าที่ดินของโจทก์ อย่าให้กีดขวางต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในคูและถนนวัดไผ่เงินได้ยกคูและถนนให้เป็นสาธารณประโยชน์ทุกคน คูรายพิพาทจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้จำเลยจะได้รับโอนโฉนดมาซึ่งรวมทั้งคูรายพิพาทนี้ด้วย ก็หาทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในคูรายพิพาทอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้วนั้นด้วยไม่ เพราะสาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นจะโอนแก่กันไม่ได้ เว้นแต่จะอาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๐๕ เท่านั้น จำเลยไม่มีสิทธิล้อมรั้วปิดกั้นคูรายพิพาท
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย.