แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในอนาคตแก่โจทก์ในอัตราวันละ 10 บาทจนกว่าจำเลยจะเลิกเกี่ยวข้องในที่พิพาทด้วยนอกนั้นยืน เช่นนี้ เป็นเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และจำเลยจะคำนวณค่าเสียหายในอนาคตตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์รวมเข้ากับทุนทรัพย์ที่ตั้งพิพาทกันมาเพื่อให้เกินห้าพันบาทโดยถือเอาเป็นทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาและขอฎีกาในข้อเท็จจริงเช่นนี้ หาชอบที่จะกระทำได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า จำเลยบุกรุกกรีดยางในที่สวนของโจทก์ตามฟ้องเริ่มแรกราคา 2,000 บาท ตามฟ้องเพิ่มเติมราคา 500 บาท ขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเท่าราคายางที่จำเลยลักกรีดถึงวันฟ้อง 340 บาท และค่าเสียหายต่อไปวันละ 20 บาทจนกว่าจำเลยจะเลิกเกี่ยวข้องในสวนพิพาท
จำเลยให้การและเพิ่มเติมคำให้การว่า สวนพิพาทเป็นของจำเลยคือที่พิพาทตามคำฟ้อง เริ่มแรกนั้นจำเลยครอบครองมาเกิน 10 ปีแล้วอีกส่วนหนึ่งตามฟ้องที่โจทก์ขอเพิ่มเติมภายหลัง จำเลยชนะคดีโจทก์ได้ที่ส่วนนี้มาตามคำพิพากษา คดีถึงที่สุดโจทก์ฟ้องซ้ำ จำเลยกรีดยางในสวนพิพาทของจำเลยได้น้ำยางวันละ 2 กรัม ราคากรัมละ 80 สตางค์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ที่สวนพิพาทตามฟ้องเริ่มแรกเป็นของโจทก์ให้จำเลยใช้ค่าน้ำยางถึงวันฟ้อง 170 บาท ส่วนคำขอสำหรับที่พิพาทตามฟ้องเพิ่มเติมและค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยจะเลิกเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ให้ยก
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในอนาคตนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยจะเลิกเกี่ยวข้องกับที่พิพาทในอัตราวันละ 10 บาทด้วย นอกนั้นยืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ทุนทรัพย์ที่ตั้งพิพาทกันมาเป็นเงิน 2,840 บาท การที่จำเลยคำนวณค่าเสียหายในอนาคตตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คือ นับแต่วันฟ้องถึงวันศาลอุทธรณ์พิพากษาเป็นเวลา 669 วัน ๆ ละ 10 บาท เป็นเงิน 6,690 บาท รวมกับค่าเสียหายก่อนฟ้องอีก 170 บาท บวกราคาที่พิพาทตามฟ้องเริ่มแรก 2,000 บาท อีกเป็น 8,860 บาท และถือเอาเงินจำนวน 8,860 บาทเป็นทุนทรัพย์ชั้นฎีกา เช่นนี้หาชอบที่จะกระทำได้ไม่ ต้องถือว่าคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท ฉะนั้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในอนาคตด้วย เช่นนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ส่วนฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยที่ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ค่าเสียหายในอนาคตแก่โจทก์โดยไม่มีหลักฐานในสำนวนสนับสนุนก็ดี และที่ว่าคดีก่อนศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงถึงที่สุดไม่เชื่อว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาท โจทก์จะกลับนำสืบในคดีนี้ว่า ได้ครอบครองที่พิพาทอีกไม่ได้ นั้นก็ดี ฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน ให้คืนค่าขึ้นศาล สำหรับค่าเสียหายในอนาคตที่จำเลยคำนวณเป็นทุนทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก 6,690 บาท นั้น