คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลจะทำพินัยกรรมกำหนดการเผื่อตายได้ก็แต่เฉพาะทรัพย์สินของตนเองเท่านั้น จะกำหนดการเผื่อตายในทรัพย์สินของคนอื่นไม่ได้ หากเป็นทรัพย์สินที่สามีภริยามีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน สามีหรือภริยาไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกสินบริคณห์ให้ผู้อื่นเกินกว่าส่วนของตน
แม้ในพินัยกรรมจะปรากฏข้อความว่า “เพื่อมิให้ยุ่งยากจึงให้นางจ้อยภริยาของข้าพเจ้าเป็นพยานยกให้ด้วย” และภริยาได้พิมพ์ลายมือไว้ในช่องพยานด้วยก็ตาม ก็ไม่ใช่ในฐานะผู้ทำพินัยกรรม หากเป็นเพียงพยานรับรู้ว่าสามีได้ทำพินัยกรรมจริงเท่านั้น แม้จะถือว่าภริยายินยอมให้สามีทำพินัยกรรม พินัยกรรมก็ไม่มีผลผูกพันถึงสินบริคณห์ส่วนของภริยา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นภริยาของนายสิน จำปาไทย นายสินถึงแก่กรรมโดยไม่มีบุตรกับโจทก์ และพี่น้องนายสินถึงแก่กรรมหมดแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอรับมรดกนายสินต่ออำเภอ นางสาวปราณีกับจำเลยคัดค้าน โดยจำเลยอ้างว่าเป็นบุตรบุญธรรมของนายสิน นายสินได้ทำพินัยกรรมไว้ แต่จำเลยมิได้แสดงพินัยกรรม และจำเลยไม่ใช่บุตรบุญธรรมของนายสินโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการรบกวนสิทธิโจทก์ และทรัพย์ที่จำเลยอ้างว่านายสินทำพินัยกรรมยกให้ก็เป็นสินสมรสของโจทก์กึ่งหนึ่ง นายสินไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกให้ใคร พินัยกรรมปลอม ขอให้ศาลแบ่งทรัพย์ให้เป็นสินสมรสของโจทก์กึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นมรดกของนายสินตกได้แก่โจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยสู้ว่าจำเลยเป็นบุตรบุญธรรมของนายสิน ๆ ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ตามฟ้องให้จำเลยโดยความยินยอมของโจทก์ ๆ ขอรับมรดกโดยปิดบังพินัยกรรมทั้ง ๆ ที่รู้ จึงถูกกำจัดสิทธิมิให้รับมรดก
ในวันชี้สองสถาน จำเลยรับว่าเป็นบุตรบุญธรรมของโจทก์และนายสินโดยมิได้จดทะเบียน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนายสินสามีกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งเป็นมรดกนายสิน นายสินทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้เกินกว่าส่วนของตนไม่ได้ และพินัยกรรมของนายสินสมบูรณ์มีผลเพียงเฉพาะส่วนของนายสินเท่านั้น
จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ไม่มีสินเดิม หากแบ่งสินสมรสโจทก์จะได้เพียง ๑ ส่วน อีก ๒ ส่วน เป็นมรดกของนายสินตกได้แก่จำเลย โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนพินัยกรรมเกินกว่า ๓ เดือนไม่ได้ โจทก์ปิดบังพินัยกรรมจึงถูกกำจัดมิให้รับมรดก
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มีสินเดิม ไม่พอฟังว่าโจทก์ปิดบังพินัยกรรมอันเป็นเหตุให้ถูกกำจัดมิให้รับมรดก จำเลยมิได้ยกอายุความต่อสู้ในคำให้การ จะอุทธรณ์ไม่ได้ พินัยกรรมนายสินทำโดยโจทก์ยินยอมเห็นชอบ ทรัพย์ตามพินัยกรรมจึงตกได้แก่จำเลยทั้งหมด พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่าพินัยกรรมนายสินมีผลเฉพาะทรัพย์สินบริคณห์ส่วนของนายสินเท่านั้น โจทก์ไม่ได้ทำพินัยกรรมร่วมด้วย โจทก์พิมพ์ลายนิ้วมือโดยไม่รู้ว่าเป็นพินัยกรรม ไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ ไม่สมบูรณ์ และไม่ผูกพันสินบริคณห์ส่วนของโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่า นายสินได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลยจริง แต่บุคคลจะทำพินัยกรรมกำหนดการเผื่อตายได้ก็แต่เฉพาะทรัพย์สินของตนเท่านั้น จะกำหนดการเผื่อตายในทรัพย์สินของคนอื่นไม่ได้ หากเป็นทรัพย์สินที่สามีภริยามีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน สามีหรือภริยาไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกสินบริคณห์ให้ผู้อื่นเกินกว่าส่วนของตน นายสินจะทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินบริคณห์ให้จำเลยเกินกว่าส่วนของตนไม่ได้ แม้ในพินัยกรรมจะปรากฏข้อความว่า “เพื่อมิให้ยุ่งยากจึงให้นางจ้อยภริยาของข้าพเจ้าเป็นพยานยกให้ด้วย” และโจทก์ได้พิมพ์ลายมือไว้ในช่องพยานด้วยก็ตาม ก็ไม่ใช่ในฐานะผู้ทำพินัยกรรมหากเป็นเพียงพยานรับรู้ว่านายสินได้ทำพินัยกรรมดังกล่าวจริงเท่านั้น แม้จะถือว่าโจทก์ผู้เป็นภริยายินยอมให้สามีทำพินัยกรรม ๆ ก็ไม่มีผลผูกพันถึงสินบริคณห์ส่วนของโจทก์
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share