แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปัญหาว่าโจทก์จงใจขาดนัดพิจารณาหรือไม่เป็นประเด็นในคดีที่มีคำขอให้พิจารณาใหม่ซึ่งถือว่าเป็นคำฟ้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสาม ได้ให้อำนาจแก่ศาลที่จะเรียกพยานหลักฐานอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดีมาสืบเพิ่มเติมได้ หากศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นที่จะต้องนำพยานหลักฐานนั้นมาสืบเพิ่มเติม การที่ศาลชั้นต้นเรียกสมุดนัดความของเจ้าหน้าที่ศาลและเรียกเจ้าหน้าที่ศาลมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องวันนัดสืบพยานโจทก์นั้น จึงเป็นการนำพยานหลักฐานอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดีมาสืบเพิ่มเติมโดยชอบตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสาม
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาทั้งในฐานะโจทก์และจำเลยฟ้องแย้ง โดยให้พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีของจำเลยไปฝ่ายเดียวและพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ว่า โจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาหรือประวิงคดีเพราะโจทก์เชื่อโดยสุจริตว่า ศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 15 สิงหาคม2532 เวลา 13.00 นาฬิกา รายงานกระบวนพิจารณาของศาลฉบับวันที่ 25 กรกฎาคม 2532 มีร่องรอยลบแก้ไขภายหลัง เมื่อวันที่8 สิงหาคม 2532 โจทก์ได้ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานบุคคลมาเบิกความเป็นพยานโจทก์ในวันเวลาดังกล่าว ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย หากโจทก์ได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบแล้ว โจทก์มีทางชนะคดีได้ ขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาใหม่ จำเลยทั้งสองยื่นคำคัดค้านว่า ศาลได้บันทึกรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2532 และอ่านให้คู่ความฟัง คู่ความได้ลงลายมือชื่อรับทราบรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวซึ่งไม่ปรากฏว่ามีร่องรอยลบแก้แต่อย่างใด ที่โจทก์ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานโจทก์ให้มาเบิกความเวลา 13 นาฬิกา นั้นเป็นเรื่องที่โจทก์พิมพ์เอกสารผิดมาให้ศาลออกหมายเรียกเอง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานโจทก์ แล้วเรียกสมุดนัดความของเจ้าหน้าที่ศาลมาให้คู่ความตรวจสอบ และมีคำสั่งให้งดไต่สวนพยานจำเลย แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าโจทก์จงใจขาดนัดพิจารณาหรือไม่เป็นประเด็นในคดีที่มีคำขอให้พิจารณาใหม่ซึ่งถือว่าเป็นคำฟ้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสาม ได้ให้อำนาจแก่ศาลที่จะเรียกพยานหลักฐานอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดีมาสืบเพิ่มเติมได้ หากศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นที่จะต้องนำพยานหลักฐานนั้นมาสืบเพิ่มเติม คดีนี้สมุดนัดความของเจ้าหน้าที่ศาลและคำตอบข้อสอบถามของเจ้าหน้าที่ศาลเกี่ยวกับเรื่องลงวันนัดสืบพยานโจทก์ในคดีนี้เป็นพยานหลักฐานที่จะนำมาสู่การวินิจฉัยข้ออ้างของโจทก์ว่าได้มีการลบและแก้ไขเวลานัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 15 สิงหาคม 2532 จากเวลาที่นัดไว้เดิม 13.00 นาฬิกาเป็น 9.00 นาฬิกา ในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม2532 หรือไม่ซึ่งหากมีการลบและแก้ไขเวลานัดสืบพยานโจทก์เช่นนั้นก็มีเหตุที่ถือได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา การที่ศาลชั้นต้นเรียกสมุดนัดความของเจ้าหน้าที่ศาลและเรียกเจ้าหน้าที่ศาลมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องวันนัดสืบพยานโจทก์นั้น จึงเป็นการนำพยานหลักฐานอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดีมาสืบเพิ่มเติมโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสาม
พิพากษายืน