แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามสัญญาเช่าซื้อกำหนดค่าเช่าซื้องวดแรกวันที่ 1 ตุลาคม 2531 แต่จำเลยนำรถยนต์ไปกระทำความผิดและถูกพนักงานสอบสวนยึดไว้ก่อนจะถึงกำหนดชำระค่าเช่าซื้องวด แรก แม้ผู้ร้องมีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและให้ผู้เช่าซื้อจัดการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนหรือให้ชดใช้ราคา ทรัพย์สินที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยหลังจากครบกำหนดชำระค่าเช่าซื้องวดแรกแล้ว 3 เดือนเศษก็ตาม แต่ยังไม่มีพฤติการณ์ใดส่อว่าผู้ร้องปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปเพื่อช่วยเหลือผู้เช่าซื้อแต่อย่างใด เพราะผู้เช่าซื้ออยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนส่วนผู้ร้องอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ร้องย่อมไม่อาจทราบว่าจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปใช้ในการกระทำความผิดฟังได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจใน การกระทำความผิด
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามว่าร่วมกับพวกอีก ๓ คน ซึ่งยังจับกุมตัวไม่ได้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐,๘๓, ๙๑, ๒๘๘, ๒๘๙, ๓๔๐, ๓๔๐ ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔, ๑๕ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๖ และขอให้ริบรถยนต์ปิกอัพ ๑ คัน เสื้อม่อฮ่อม ๑ ตัว ไขควง ๑ ด้ามของกลาง ส่วนผ้าขนหนู ๑ ผืน และลูกกุญแจ ๒ ดอก คืนแก่เจ้าของศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามตามฟ้องจำคุกจำเลยที่ ๑ กับที่ ๒คนละ ๑๕ ปี และจำเลยที่ ๓ มีกำหนด ๖ ปี ๘ เดือน และสั่ง ให้ริบรถยนต์ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลาง ผู้มิได้รู้ เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องมิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของกลางและผู้ร้องมีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสาม ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษากลับ ให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๓๑นางคำป้อ คำใจ ภรรยาของจำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของกลางไปจากผู้ร้อง ชำระราคาในวันทำสัญญาบางส่วนที่เหลือผ่อนชำระอีก ๔๘ เดือน เริ่มแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๑ร้อยตำรวจโทอุทัย อาจหาญ ได้จับกุมจำเลยที่ ๑ กับพวกในข้อหาร่วมกันพยายามปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะคือรถยนต์ที่ นางคำป้อ เช่าซื้อไปจากผู้ร้องในการกระทำความผิดพนักงานสอบสวนได้ยึดรถยนต์ดังกล่าวไว้เป็นของกลางด้วย ผู้ร้องไม่ได้ชำระราคาให้ผู้เช่าซื้อเลย ต่อมาวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๓๒ผู้ร้องได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและให้ผู้เช่าซื้อจัดการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืน ศาลได้พิพากษาเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม๒๕๓๒ ว่าจำเลยที่ ๑ กับพวกมีความผิดและริบรถยนต์ของกลางผู้ร้อง ขอคืนรถยนต์ของกลางเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๓๒ และวินิจฉัยว่าตามสัญญาเช่าซื้อกำหนดค่าเช่าซื้องวดแรกวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๑แต่จำเลยที่ ๑ ได้นำรถยนต์ไปกระทำความผิดและถูกพนักงานสอบสวนยึดไว้ตั้งแต่ว้นที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๓๑ อันเป็นเวลาก่อนที่จะถึงกำหนดชำระค่าเช่าซื้องวดแรก ต่อมาวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๓๒ ผู้ร้องจึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและให้ผู้เช่าซื้อจัดการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนหรือให้ชดใช้ราคาทรัพย์สินเท่ากับราคาที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ย ถึงแม้จะเป็นเวลาหลังจากครบกำหนดชำระค่าเช่าซื้องวดแรกแล้ว ๓ เดือนเศษก็ตาม ยังไม่มีพฤติการณ์ใดส่อว่าผู้ร้องปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปเพื่อช่วยเหลือผู้เช่าซื้อแต่อย่างใด เพราะผู้เช่าซื้ออยู่ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนผู้ร้องอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ร้องย่อมไม่อาจทราบว่าจำเลยที่ ๑ได้นำรถยนต์ของกลางไปใช้ในการกระทำผิด พยานหลักฐานที่ผู้ร้องนำสืบมาฟังได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยที่ ๑ ด้วย ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ วินิจฉัยชอบด้วยรูปคดีแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.