แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 67 ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสินเป็นระเบียบที่จำเลยประกาศใช้บังคับขึ้นเอง ไม่ได้เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้อง แม้โจทก์จำเลยจะเคยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้องกำหนดให้ข้อบังคับ ระเบียบการ และคำสั่งของจำเลยเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่ ให้ถือว่าเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ก็ไม่ทำให้ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 67 ซึ่งมิได้เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้องกลายเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้องไปได้ การที่จำเลยประกาศใช้ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 202 ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 9) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2527 โดยเพิ่มเงื่อนไขที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพมากกว่าระเบียบฉบับที่ 67 อีกสองข้อ แล้วใช้บังคับแก่พนักงานใหม่ทีเข้าทำงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2527 เท่านั้น จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นนายจ้างของสมาชิกโจทก์ จำเลยได้ออกระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน มีผลใช้บังคับกับพนักงานทุกคนตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๖ เป็นต้นไป ระเบียบดังกล่าวได้กำหนดเงินทุนเลี้ยงชีพประเภทสอง (บำเหน็จ) และประเภทสาม (บำนาญ) ไว้วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ โจทก์แจ้งข้อเรียกร้องต่อจำเลย และได้ทำข้อตกลงกันว่า ข้อบังคับระเบียบการและคำสั่งของธนาคารเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่ให้ถือเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ จึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง มีผลใช้บังคับแก่สมาชิกของโจทก์ ต่อมาวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๒๗ จำเลยได้ออกระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) ใช้บังคับแก่พนักงานใหม่ที่เข้าปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๒๗ ซึ่งมีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ โดยฉบับที่ ๖๗ มีเงื่อนไขที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพประเภทสองและประเภทสามเพียง ๓ ข้อแต่ฉบับที่ ๒๐๒ ได้เพิ่มเติมเงื่อนไขเป็นประเภทละ ๕ ข้อ ซึ่งเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมแต่ฝ่ายเดียวโดยไม่แจ้งข้อเรียกร้อง และไม่เป็นคุณต่อลูกจ้าง ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๒๐ ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ จึงเป็นโมฆะไม่มีผลใช้บังคับ ขอให้เพิกถอนระเบียบการธนาคารออมสินดังกล่าว
จำเลยให้การว่า สมาชิกของโจทก์ที่เข้าเป็นลูกจ้างใหม่ได้เข้าทำงานขณะที่ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ได้ใช้บังคับอยู่แล้ว ต้องถือว่าลูกจ้างใหม่ยอมรับระเบียบนี้ทุกประการระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ และฉบับที่ ๒๐๒ ไม่ใช่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้องระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ จึงไม่ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๒๐ จำเลยไม่ต้องยกเลิกระเบียบดังกล่าว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ระเบียบการธนาคารออมสินฉบับที่ ๖๗ เอกสารหมาย จ.๒ เป็นระเบียบที่จำเลยประกาศใช้บังคับโดยกระทำขึ้นเองฝ่ายเดียว มิได้เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้อง แม้จะถือเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ก็ไม่อยู่ในบังคับ มาตรา ๑๙, ๒๐ นายจ้างลูกจ้างมีสิทธิทำสัญญาจ้างแรงงาน ให้มีผลแตกต่างไปจากข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างได้โดยไม่ต้องแจ้งข้อเรียกร้องก่อนระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ชอบด้วยกฎหมายพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๒๐ บัญญัติไว้มีความหมายว่าสถานประกอบกิจการใด เมื่อมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้องใช้บังคับแล้ว ห้ามมิให้นายจ้างทำสัญญาจ้างแรงงานกับลูกจ้างขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนั้น เว้นแต่สัญญาจ้างแรงงานนั้นจะเป็นคุณแก่ลูกจ้างยิ่งกว่าศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า เดิมจำเลยประกาศใช้บังคับระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๒๗ จำเลยได้ใช้บังคับระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) ระเบียบการฉบับใหม่มีผลแก้ไขเปลี่ยนแปลงระเบียบการฉบับเดิมเกี่ยวกับเงินทุนเลี้ยงชีพ โดยเพิ่มเงื่อนไขที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพมากกว่าขึ้นกว่าเดิมอีกสองข้อ ให้มีผลใช้บังคับแก่ลูกจ้างใหม่ที่เข้าทำงานภายหลังจากได้ประกาศใช้ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) แล้ว ส่วนลูกจ้างเดิมคงบังคับตามระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน ในกรณีเช่นนี้ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) จะฝ่าฝืนมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ต่อเมื่อระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสินที่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมนั้น เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน เป็นระเบียบการที่จำเลยประกาศใช้บังคับขึ้นเองไม่ได้เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้อง แม้โจทก์จำเลยเคยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้อง ลงวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๒๔ ข้อ ๒๘ กำหนดให้ข้อบังคับระเบียบการและคำสั่งของจำเลยเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่ให้ถือว่าเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ก็หาทำให้ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๖๗ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสินซึ่งไม่ได้เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้อง กลายเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้องไปไม่ การที่จำเลยประกาศใช้บังคับระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังได้ความต่อไปว่า จำเลยบังคับใช้ระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) เฉพาะพนักงานใหม่ที่เข้าทำงานตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๒๗ เท่านั้นลูกจ้างที่เข้าทำงานกับจำเลยหลังวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๒๗ ก็ได้ทำสัญญาจ้างกับจำเลย ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับซึ่งคณะกรรมการธนาคารออมสินหรือผู้อำนวยการธนาคารออมสินได้กำหนดวางไว้แล้ว ขณะนั้นระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนแล้ว ระเบียบการธนาคารออมสินฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสิน (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ ๙) จึงชอบด้วยกฎหมายและไม่มีเหตุที่จะเพิกถอน ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.