แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 4 ถึงแก่ความตายขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ย่อมเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการเข้าเป็นคู่ความแทนที่ ศาลชั้นต้นจะต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปก่อน และทำการไต่สวนให้ได้ความว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 4 จริงหรือไม่ แล้วส่งคำร้องดังกล่าวพร้อมสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาสั่ง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่แล้วอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ศาลล่างทั้งสองดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องก่อน
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับมิให้จำเลยนำรังวัดบุกรุกที่ดินของโจทก์และเขตชลประทาน ห้ามจำเลยก่อสร้างเมรุเผาศพในบริเวณใดบริเวณหนึ่งทางด้านทิศตะวันตกของทางรถยนต์ปัจจุบัน
จำเลยทั้งหกให้การว่า ที่ดินพิพาทเจ้าของเดิมจะขายให้แก่บิดาโจทก์และบิดาโจทก์จะยกที่ดินให้โจทก์หรือไม่ จำเลยไม่ทราบที่ดินพิพาททั้งหมดเป็นของจำเลย หากที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1ก็ได้ครอบครองมาโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวก่อนสร้างเมรุเผาศพคณะกรรมการจำเลยที่ 1 ได้พิจารณาหาทางป้องกันเกี่ยวกับเรื่องผง เขม่า ขี้เถ้า และกลิ่นควันจากปล่องเมรุเพื่อมิให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ประชาชนบริเวณใกล้เคียงอยู่แล้วจำเลยมิได้ถมดินลงในเขตชลประทาน และโจทก์ไม่เคยใช้เส้นทางส่วนที่จำเลยถมดินเป็นทางขึ้นสู่ทางรถยนต์ปัจจุบัน โจทก์มิได้รับความเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาห้ามจำเลยทั้งหกก่อสร้างเมรุเผาศพในที่ดินพิพาทหรือบริเวณใดบริเวณหนึ่งทางด้านทิศตะวันตกของทางรถยนต์ปัจจุบัน ตามรูปแผนที่วิวาทเอกสารหมาย จ.3
โจทก์และจำเลยทั้งหกอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยทั้งหกฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 4 ถึงแก่ความตายขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ย่อมเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 4 ในกรณีเช่นนี้ศาลชั้นต้นจะต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปก่อนและทำการไต่สวนให้ได้ความว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 4 จริงหรือไม่ แล้วส่งคำร้องดังกล่าวพร้อมสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาสั่ง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 4 แล้วอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟัง จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ศาลล่างทั้งสองดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องก่อน คดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์และจำเลยทั้งหกอีกต่อไป
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กับยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้นางเผือด กันก้อง เข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 4 ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดีและให้ยกฎีกาของโจทก์และจำเลยทั้งหก คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่โจทก์และจำเลยทั้งหก