แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์อ้างเหตุแต่เพียงว่าโจทก์ขอคัดคำพิพากษาและคำเบิกความพยานโจทก์ไว้แล้ว แต่ยังคัดไม่ได้เท่านั้นโดยไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้ขวนขวายมาติดต่อเจ้าหน้าที่ศาลอย่างไรหรือไม่ ถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษกรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์เมื่อวันที่11 มีนาคม 2535 ครั้นวันที่ 10 เมษายน 2535 โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ต่อไปอีก 15 วัน โดยอ้างว่า โจทก์ขอคัดคำพิพากษาและคำพยานโจทก์ไว้แล้ว แต่ยังคัดไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีพฤติการณ์พิเศษไม่อนุญาต
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้ขยายเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์ออกไป 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่ง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์อ้างเหตุแต่เพียงว่า โจทก์ขอคัดคำพิพากษาและคำเบิกความพยานโจทก์ไว้แล้ว แต่ยังคัดไม่ได้เท่านั้น โจทก์ยื่นคำแถลงขอคัดไว้เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2535 แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้ขวนขวายมาติดต่อเจ้าหน้าที่ศาลอย่างไรหรือไม่ อันจะมีเหตุขัดข้องคัดไม่ได้ทั้งตามคำร้องของโจทก์ถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ที่ศาลจะขยายระยะเวลาให้โจทก์ได้ฎีกาจำเลยข้ออื่นไม่จำต้องวินิจฉัยที่ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของโจทก์