คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นผู้เข้าสู้ราคาในการขายทอดตลาดเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีและมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดในคดีนี้หรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คดีไม่มีประเด็นพิพาทในปัญหาดังกล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นสมควรศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกปัญหาขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142(5) การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแทน ถือว่าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯมาตรา 146 หากเป็นความจริงดังที่ผู้ร้องอ้างในคำร้องว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เคาะไม้ขายทอดตลาดให้แก่ผู้เข้าสู้ราคาในราคา 25,300,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ผู้ร้องเสนอราคาเป็น25,400,000 บาท และได้เคาะไม้โดยไม่นับ 1 ถึง 3 ก่อน ย่อมถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นได้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์บ้านและที่ดินไทย จำกัด ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 98859 ของบริษัทดังกล่าวโดยปลอดการจำนองให้แก่บริษัทแอลแมกเนท คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้สู้ราคาสูงสุดในราคา 25,300,000 บาท ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้รับความเสียหายจากการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เคาะไม้ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้เข้าสู้ราคาในราคา 25,300,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ผู้ร้องได้เสนอราคาเป็น 25,400,000 บาท ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะทำการเคาะไม้ ทั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เคาะไม้ตกลงขายโดยไม่นับ 1 ถึง 3 ก่อน การขายทอดตลาดจึงไม่ชอบ ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดดังกล่าว
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ในการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการแทนการขายทอดตลาดดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีเหตุที่จะยกเลิกขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่ผู้ร้องฎีกาว่าคดีไม่มีประเด็นพิพาทในศาลชั้นต้นว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดและมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดหรือไม่ ทั้งผู้ร้องซึ่งเป็นผู้อุทธรณ์ก็ไม่ได้ยกปัญหาดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจยกปัญหาดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยได้นั้น เห็นว่า ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี และมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีนี้ได้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คดีไม่มีประเด็นพิพาทในปัญหาดังกล่าวในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นสมควรศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกปัญหาข้อกฎหมายนั้นขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ฎีกาของผู้ร้องข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปตามที่ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีนี้ได้หรือไม่ปรากฏตามคำร้องของผู้ร้องและคำคัดค้านของผู้คัดค้านว่า เมื่อวันที่17 พฤษภาคม 2532 ผู้ร้อง เป็นผู้เข้าสู้ราคาในการขายทอดตลาดที่ดินของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์บ้านและที่ดินไทย จำกัด ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้ล้มละลาย ผู้ร้องได้รับความเสียหายจากการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งได้มอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแทนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและระเบียบของกรมบังคับคดีโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้เข้าสู้ราคาในราคา 25,300,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ผู้ร้องได้เสนอราคาเป็น 25,400,000 บาท ก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเคาะไม้และเจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ตกลงขายโดยไม่นับ 1 ถึง 3 ก่อนผู้ร้องได้ยื่นคำร้องคัดค้านมาภายในกำหนด 8 วัน นับแต่วันทราบการฝ่าฝืนแล้ว ดังนี้ การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแทนถือได้ว่าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 146 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 หากเป็นความจริงดังที่ผู้ร้องอ้างในคำร้อง ย่อมถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วเมื่อปรากฏว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 22พฤษภาคม 2532 อันเป็นการยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลภายในกำหนด 14 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบการกระทำนั้น ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีนี้ได้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินตามคำร้องนั้นยังไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
เมื่อได้วินิจฉัยเช่นนี้แล้ว ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีนี้ชอบหรือไม่ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าว… ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามที่ผู้คัดค้านนำสืบว่า เมื่อบริษัทแอลแมกเนท คอมเมอร์เชียล จำกัด เป็นผู้เสนอราคา25,300,000 บาท แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้นับ 1 จำนวน 3 ครั้งนับ 2 อีก 3 ครั้ง และถามว่าจะมีผู้ใดเสนอราคาสูงกว่านี้หรือไม่ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดเสนอราคาสูงกว่านั้น เมื่อได้รับอนุมัติจากผู้อำนวยการกองยึดอายัดและจำหน่ายทรัพย์แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้นับ 3 และเคาะไม้ขายในราคาดังกล่าว การขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีนี้ของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบแล้วไม่มีเหตุที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว”
พิพากษายืน.

Share