คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4911/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีอาญาจะต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ หรือไม่นั้นต้องดูอัตราโทษตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติที่โจทก์ขอให้ลงโทษเป็นสำคัญ ส่วนอัตราโทษตามบทบัญญัติที่พิจารณาได้ความหาใช่ข้อที่จะนำมาพิจารณาในชั้นนี้ไม่ อุทธรณ์ของโจทก์สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนความผิดตามบทมาตราอื่น แม้จะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ก็เป็นการกระทำกรรมเดียวกับความผิดตามมาตรา 365(2)ซึ่งไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ความผิดตามบทมาตราอื่นจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และภริยาได้ร่วมกันขายที่ดินเฉพาะส่วนของภริยาให้แก่โจทก์ โจทก์ได้เข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าวเรื่อยมา ต่อมาจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ใช้ จ้าง วานจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 บุกรุกนำรถแทรกเตอร์เข้าไปไถที่ดินของโจทก์และปรับหน้าดินจนราบเรียบทั้งแปลง ทำให้คันนาโจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354,362, 365(2), 83, 84, 90
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูลเฉพาะจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่มีมูล ให้ประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นว่า คดีโจทก์ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยมีว่าคดีของโจทก์ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ คดีนี้โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามฟ้องศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) โจทก์บรรยายว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิด แต่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 จึงไม่อาจลงโทษจำเลยที่ 1 ตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ส่วนความผิดตามบทมาตราอื่นมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาเห็นว่า คดีอาญาเรื่องใดจะต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิ หรือไม่นั้น ต้องดูอัตราโทษตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติที่โจทก์ขอให้ลงโทษเป็นสำคัญ ส่วนอัตราโทษตามบทบัญญัติที่พิจารณาได้ความ หาใช่ข้อที่จะนำมาพิจารณาในชั้นนี้ไม่ อุทธรณ์ของโจทก์สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ ส่วนความผิดตามบทมาตราอื่น แม้จะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ก็เป็นการกระทำกรรมเดียวกับความผิดตามมาตรา 365(2)ซึ่งไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ดังนั้น ความผิดตามบทมาตราอื่นจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่รับวินิจฉัยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น และเห็นว่าสมควรย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นผู้วินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของโจทก์เพราะผลแห่งการวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 อาจนำไปสู่การจำกัดสิทธิการฎีกาของคู่ความได้”
พิพากษายกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยอุทธรณ์ทั้งหมดของโจทก์ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share