แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 895(1) บัญญัติข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยเนื่องมาจากผู้เอาประกันภัยกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยใจสมัครภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญานั้นก็เพื่อป้องกันมิให้ผู้ทำสัญญาประกันชีวิตทำอัตวินิบาตกรรมอันเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเพื่อต้องการให้ผู้รับประโยชน์ได้รับเงินอันจะพึงใช้ตามสัญญาประกันชีวิตนั้น ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้รับประกันภัย ดังนั้น ถ้าผู้เอาประกันภัยลงมือกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยใจสมัครภายใน 1 ปีนับแต่วันทำสัญญา แม้การกระทำจะเกิดผลสำเร็จโดยผู้เอาประกันภัยถึงแก่ความตายภายหลังระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันทำสัญญาก็ตามแต่ความตายเป็นผลโดยตรงจากการกระทำดังกล่าว ผู้รับประกันภัยก็ได้รับยกเว้นความรับผิดไม่ต้องใช้เงินให้แก่โจทก์ผู้รับประโยชน์ตามบทกฎหมายดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันชีวิตจำเลยไม่ยอมชำระเงินตามที่นายอุดมเอาประกันภัยไว้ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 50,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นายอุดมกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยใจสมัครภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญา จำเลยจึงไม่ต้องใช้เงินที่รับประกันภัยไว้ คงมีหน้าที่คืนเบี้ยประกันภัยให้แก่โจทก์เท่านั้น ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดสืบพยานจำเลยคู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่านายอุดม ธัญญะ ผู้เอาประกันภัย กินยาฆ่าแมลงโดยมีเจตนาฆ่าตัวตายศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอที่จะวินิจฉัยได้แล้ว ให้งดสืบพยานคู่ความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า นายอุดม ธัญญะ ผู้เอาประกันภัยกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยใจสมัครภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญา จำเลยผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินที่รับประกันภัย แต่จำเลยมีหน้าที่ต้องคืนเบี้ยประกันให้แก่โจทก์ผู้รับประโยชน์ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 5,313 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง(25 กรกฎาคม 2534) ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 800 บาทเฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามจำนวนเท่าที่โจทก์ชนะคดี
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 14กันยายน 2532 จำเลยได้ทำสัญญารับประกันภัยนายอุดม ธัญญะตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 สัญญากำหนดระยะเวลา 20 ปี นับแต่วันที่ 14 กันยายน 2532 ถึงวันที่ 14กันยายน 2532 ระหว่างที่อยู่ภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันทำสัญญา คือเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2533 นายอุดมได้กินยาฆ่าแมลงโดยมีเจตนาฆ่าตัวตายแต่ยังไม่ถึงแก่ความตายทันที โดยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ และถึงแก่ความตายวันที่19 กันยายน 2533 ด้วยเหตุกินยาฆ่าแมลง ตามมรณบัตรเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ซึ่งอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาว่า การที่นายอุดมผู้เอาประกันภัยกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยสมัครใจภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญา แต่ไม่ถึงแก่ความตายภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญา จำเลยผู้รับประกันภัยจะได้รับยกเว้นไม่ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ผู้รับประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 895(1) หรือไม่เห็นว่า สัญญาประกันชีวิตแบบที่อาศัยความมรณะเป็นหลักนั้น ในกรณีที่ผู้รับประกันภัยมีหน้าที่จะต้องใช้เงินให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยไว้ถึงแก่ความตายนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 895 ได้บัญญัติถึงหน้าที่และข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยไว้ว่า “เมื่อใดจะต้องใช้จำนวนเงินในเหตุมรณะของบุคคลคนหนึ่งคนใด ท่านว่าผู้รับประกันภัยจำต้องใช้เงินนั้นในเมื่อมรณภัยอันนั้นเกิดขึ้น เว้นแต่
(1) บุคคลผู้นั้นได้กระทำอัตวินิบาตด้วยใจสมัครภายในปีหนึ่งนับแต่วันทำสัญญาหรือ ฯลฯ” จะเห็นได้ว่า เหตุผลที่กฎหมายบัญญัติข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยเนื่องมาจากผู้เอาประกันภัยกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยใจสมัครภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญานั้นก็เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ผู้ทำสัญญาประกันชีวิตกระทำอัตวินิบาตกรรมอันเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อต้องการให้ผู้รับประโยชน์ได้รับเงินอันจะพึงใช้ตามสัญญาประกันชีวิตนั้น ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้รับประกันภัย ดังนั้นถ้าผู้เอาประกันภัยลงมือกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยใจสมัครภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญา แม้การกระทำจะเกิดผลสำเร็จโดยผู้เอาประกันภัยถึงแก่ความตายภายหลังระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันทำสัญญาก็ตาม แต่ความตายเป็นผลโดยตรงจากการกระทำดังกล่าวผู้รับประกันภัยก็ได้รับยกเว้นความรับผิดไม่ต้องใช้เงินให้แก่โจทก์ผู้รับประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 895(1)
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ