คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานหลบหนีการคุมขังของพนักงานสอบสวนนั้น โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหานี้และพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนจำเลยทั้งสองในข้อหานี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120แม้จำเลยทั้งสองจะมิได้หยิบยกปัญหานี้ขึ้นว่ากล่าวในศาลล่าง แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นควรวินิจฉัยให้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลล่างวินิจฉัยอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56, 57, 58, 83, 84, 91, 137, 172, 190 และนำโทษของจำเลยทั้งสองที่ศาลรอการลงโทษไว้บวกเข้ากับโทษของจำเลยทั้งสองในคดีนี้
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในคดีที่ศาลให้รอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ประกอบด้วย มาตรา 84 มาตรา 190(ที่ถูกคือ มาตรา 190 วรรคแรก) การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำผิด ลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือนความผิดฐานหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือนรวมจำคุกคนละ 12 เดือน ทางนำสืบของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 8 เดือนคำขอนอกนี้
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ส่วนที่จำเลยทั้งสองฎีกาอ้างเหตุว่าที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานหลบหนีการคุมขังของพนักงานสอบสวนนั้นโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหานี้และพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนจำเลยทั้งสองในข้อหานี้จึงห้ามมิให้โจทก์ฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120 แม้จำเลยทั้งสองจะมิได้หยิบยกปัญหานี้ขึ้นว่ากล่าวในศาลล่าง แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นควรวินิจฉัยให้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลล่างวินิจฉัยอีก เห็นว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองหลบหนีจากการคุมขังของพนักงานสอบสวนทั้งได้อ้างมาตราที่จำเลยทั้งสองกระทำผิด แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสอง ที่จำเลยทั้งสองฎีกาอ้างเหตุว่า ความผิดฐานหลบหนีจากการคุมขังของพนักงานสอบสวนไม่มีการสอบสวนจึงห้ามมิให้โจทก์ฟ้องเห็นว่า โจทก์มีร้อยตำรวจโทเสกสรร อรัญศรีพนักงานสอบสวนเบิกความว่าเป็นผู้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่จำเลยทั้งสองว่าจำเลยทั้งสองหลบหนีไประหว่างถูกคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวนจำเลยทั้งสองไม่ได้นำสืบหักล้างให้เห็นเป็นอย่างอื่น ฟังได้ว่าข้อหาหลบหนีจากการคุมขังของพนักงานสอบสวนมีการสอบสวนแล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง…”
พิพากษายืน

Share