คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า มีคนร้ายลักทรัพย์ไป จับของกลางได้ที่จำเลย โดยจำเลยลักทรัพย์รายนี้หรือรับไว้จากผู้ร้ายขอให้ลงโทษตาม ม.293,321 ดังนี้ไม่ขัดกัน และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
สำเนาฟ้องระบุเดือนที่เกิดเหตุผิดไปจากต้นฉะบับโดยความพลั้งเผลอของโจทก์ เมื่อจำเลยไม่หลงต่อสู้ และทางพิจารณาก็นำสืบกันตามวันเดือนโจทก์ฟ้อง ดังนี้ยกฟ้องโจทก์ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายลักทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไป ต่อมาวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๔๘๘ เวลากลางคืน ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำเดือน ๗ จำเลยทั้งสองได้บังอาจครอบครองยาเส้นของเจ้าทรัพย์นี้ไว้ ทั้งนี้จำเลยทั้งสองได้บังอาจสมคบกันเป็นผู้ร้ายลักเอายาเส้นของเจ้าทรัพย์มาเอง หรือมิฉะนั้นจะเลยทั้งสองได้สมคบกันรับยาเส้นของเจ้าทรัพย์นี้ไว้จากโจรผู้ร้าย โดยรู้สึกว่าเป็นของร้ายได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๙๓,๓๒๑ ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำเลย
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องโจทก์ที่หาว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรควบกันมาดังกล่าวแล้วนี้เป็นฟ้องที่พึงรับไว้พิจารณาได้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ส่วนสำเนาฟ้องผิดกับฉบับที่ยื่นต่อศาลนั้น โจทก์แก้ว่าเป็นเพราะความพลั้งเผลอ ศาลฎีกาเห็นว่า การที่สำเนาฟ้องลงเดือนผิดกับฟ้องที่ยื่นต่อศาลนี้ ไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้ หรือทำหใ้จำเลยต้องเสียเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างใด เพราะสำเนาฟ้องได้อ้างวันทางจันทรคติไว้ด้วยตรงกับต้นฉบับที่ยื่นต่อศาล และพะยานที่นำสืบกันมาก็เบิกความถึงวันจันทรคติทั้งนั้น จึงยังไม่เป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้อง พิพากษายืน

Share