แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปัญหาข้อกฎหมายการแปลสัญญาเป็นปัญหาข้อกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง อำนาจศาลฎีกาปัญหาข้อกฏหมายที่ไม่ได้กล่าวอ้าง แต่ศาลเดิมรับเป็นฎีกาขึ้นมานั้นเข้าเป็นข้อวินิจฉัยแพ้ชนะในคดึแล้ว ศาลฎีกาพิจารณาได้ พ.ร.บ.เหมืองแร่ พ.ศ. 2461 ประทานบัตร์ที่ออกโดยพระบรมราชานุญาตนั้น ย่อมเปลี่ยนแก้ได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในทีสุดทำยอมกันคือจำเลยยอมใช้เงินให้โจทก์ แลโจทก์ย่อมคืนที่ให้จำเลย เมื่อจำเลยชำระเงินให้โจทก์แล้วจึงขอให้โจทก์ตัดที่ดินตามยอมออกจากประทานบัตร์ของโจทก์ แต่เกี่ยงกันเรื่องการเสียค่าธรรมเนียมในการตัดที่ออกจากประทานบัตร์
ศาลเดิมมีคำสั่งให้โจทก์จัดการแบ่งแยกที่ของจำเลยออกจากประทานบัตร์แลให้เป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมเพราะโจทก์เป็นผู้ออกประทานบัตร์ทับที่รายนี้เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์จะซื้อก็ต้องคืนที่ในสภาพเดิมปราศจากภาระติดฟันใด ๆ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาเป็นปัญหากฎหมายว่า
(๑) ประทานบัตร์ไม่ใช่หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิที่ดิน
(๒) ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทำสัญญาขายไม่ได้ นั้นเป็นการวินิจฉัยนอกสำนวน
(๓) จะตัดที่ดินออกจากประทานบัตร์ไม่ได้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะประทานบัตร์เป็นพระบรมราชานุญาตจะลบล้างเสียมิได้
ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องนี้แม้โจทก์ไม่ได้ฎีกาขึ้นมาในข้อแปลสัญญายอมโดยตรงก็ดี แต่เป็นปัญหากฎหมายที่ศาลเดิมรับฎีกาขึ้นมาเห็นว่าตามสัญญายอมข้อ (๒) มีว่าโจทก์ยอมจัดการคืนที่ให้จำเลยทั้งนี้ต้องตีความว่าคืนที่ของจำเลยซึ่งโจทก์ขอประทานบัตร์ไปแล้ว เพราะเหตุที่รายวิวาทนี้ยังมิได้มีการซื้อขายกัน แลในการคืนที่นี้ต้องแปลว่าคืนที่ให้ตามสภาพเดิมปราศจากภาระติดพันดังที่ศาลล่างได้วินิจฉัยมาแล้ว
ส่วนในฎีกาข้อ ๑ แล ๒ เห็นเป็นเรื่องไม่เกี่ยวแก่ประเด็น ในปัญหาข้อ ๓ นั้นเห็นว่าไม่มีกฎหมายที่ไหนที่ห้ามมิให้ตัดที่ออกจากประทานบัตร์ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง