คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีธนบัตร์ปลอมไว้แต่พึ่งรู้ว่า+ปลอมเมื่อภายหลัง แลยังขืน+ออกจำหน่ายใช้มีผิดตามมาตรา 204 กฎหมายอาชญาแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2475 ม.7 วิธีพิจารณาอาชญา หน้าที่นำสืบ +คดีเรื่องธนบัตร์ปลอมถ้าโจทก์สืบไม่ได้ความว่าจำเลยได้รู้มาตั้งแต่เมื่อแรกได้ธนบัตร์ไว้ต้องฟังว่าจำเลยเพิ่งรู้ภายหลังว่าเป็นธนบัตร์ปลอม

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยได้เอาธนบัตร์ฉะบับ ๑๐ บาทปลอมไปใช้แก่ ง.ฉะบับหนึ่ง ง.สงสัยจึงให้ จ.ดู จ.จึงไปบอกตำรวจ ๆ มาตรวจค้นชั้นแรกจำเลยปฏฺเสธ แต่ในทีสุดก็ค้นได้จากจำเลยฉะบับหนึ่งลักษณเหมือนกันกับที่ใช้แก่ ง. แลปรากฎว่าก่อนถูกจับจำเลยก็ได้นำเอาไปใช้แก่ผู้อื่นอีก แต่ใช้ไม่ได้ดังนี้
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกจำเลย ๑๐ ปี ตามมาตรา ๒๐๓ แลพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณอาชญา พ.ศ.๒๔๗๕ ม.๖
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์สืบไม่ได้ความว่าจำเลยได้รู้มาตั้งแต่แรกได้ธนบัตร์นี้ไว้ว่าเป็นธนบัตร์ปลอม จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยฟังว่าจำเลยเพิ่งรู้ภายหลังเมื่อได้ธนบัตร์ไว้แล้วว่าเป็นธนบัตร์ปลอมแต่จำเลยยังขืนเอาออกจำหน่ายใช้ความผิดของจำเลยจึงต้องด้วยมาตรา ๒๐๔ แลพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาชญา พ.ศ.๒๔๗๕ มาตรา ๗ ให้จำคุกจำเลย ๑ ปี

Share