คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4885/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในส่วนที่ไม่ต้องห้ามฎีกาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานเป็นธุระจัดหาหญิงและเด็กหญิงเพื่อการอนาจาร เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นตาม ป.อ. มาตรา 282 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดหรือไม่ ส่วนข้อหาฐานเป็นเจ้าของสถานการค้าประเวณีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย มีกำหนด 8 เดือน และคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงก็ตาม แต่เมื่อปรากฏตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่ฟังว่าการค้าประเวณีไม่ได้กระทำในบ้านที่จำเลยเป็นเจ้าของดูแล บ้านดังกล่าวเป็นเพียงสถานที่ติดต่อ แล้วนัดไปร่วมประเวณีกันที่อื่น ซึ่งศาลฎีกาก็ฟังข้อเท็จจริงได้เป็นอย่างเดียวกัน และ พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะกระทำความผิด บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ว่า “สถานการค้าประเวณี” หมายความว่าสถานที่ใด ๆ ที่จัดไว้เพื่อให้บุคคลอื่นทำการค้าประเวณี โดยจัดให้มีผู้ทำการค้าประเวณีไว้เพื่อการนั้นด้วย ดังนี้ สถานที่เกิดเหตุจึงมิใช่สถานการค้าประเวณีตามกฎหมายดังกล่าว และจะฟังว่าจำเลยเป็นเจ้าของสถานการค้าประเวณีตามคำฟ้องยังไม่ได้แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาโต้แย้งในปัญหานี้โดยตรง ศาลฎีกาก็มีอำนาจนำขึ้นมาเป็นเหตุยกฟ้องโจทก์ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยมาตรา 215และมาตรา 225

Share