แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีและใช้เครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมอันเป็นความผิดในมาตราเดียวกัน ตาม พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6 ในเวลาเดียวกันเท่ากับว่า มีเจตนาอันเดียว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไว้ซึ่งเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมซึ่งใช้รับและส่งเครื่องหมาย สัญญาณ เสียง และการอื่นใดซึ่งสามารถให้เข้าใจความหมายได้ด้วยคลื่นแฮรตเซียน ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต และใช้เครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 4, 6, 22, 23ริบของกลางเพื่อไว้ใช้ในราชการของกรมไปรษณีย์โทรเลข
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6, 23 ลงโทษฐานใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90ให้จำคุก 2 ปี และปรับ 8,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์การแก่พิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 เครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ของกลางให้ริบไว้ใช้ในราชการของกรมไปรษณีย์โทรเลข
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อที่ต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์ฎีกามีว่าการกระทำความผิดของจำเลยเป็นความรับผิดสองกรรมต่างกันซึ่งจะต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมพ.ศ. 2498 มาตรา 6 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำเข้าหรือนำออกซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม หรือตั้งสถานีวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใช้อนุญาต” เห็นว่า การมีและใช้เครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมเป็นความผิดในบทมาตราเดียวกันการที่จำเลยจะใช้เครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมได้ จำเลยย่อมจะต้องมีเครื่องรับและส่งดังกล่าวไว้ในครอบครองอยู่ก่อน และปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์ว่า จำเลยมีและใช้เครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมในเวลาเดียวกัน เท่ากับว่าจำเลยมีเจตนาอันเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยฐานใช้เครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมเพียงกระทงเดียวจึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.