คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4861/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “เทวารัณย์” เป็นคำที่มีความหมายตามพจนานุกรมว่าสวนสวรรค์ จึงเป็นคำที่มีอยู่แล้วและใช้กันได้เป็นการทั่วไป ดังนี้ย่อมไม่มีเหตุอันควรที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะถือสิทธิในการใช้คำนี้แต่ผู้เดียวโดยเด็ดขาด บุคคลอื่นย่อมยังสามารถใช้คำคำนี้ได้ เพียงแต่ต้องกระทำโดยสุจริตโดยไม่ทำให้เกิดความสับสนหลงผิดหรือเกิดความเสียหายแก่ผู้ที่ได้ใช้คำคำนี้เป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการหรือชื่อทางการค้ามาก่อน
ก่อนที่จำเลยจะใช้ชื่อทางการค้าคำว่า “บ้านเทวารัณย์” และ “Baan Dhewaran” กับโครงการที่ดินและบ้านจัดสรรของจำเลย ในเดือนมกราคม 2547 นั้น แม้โจทก์จะได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการโดยใช้คำว่า “เทวารัณย์” และ “DEVARANA” แต่ก็เป็นการจดทะเบียนไว้สำหรับบริการประเภทอื่นคนละประเภทกับกิจการของจำเลย ซึ่งโจทก์ย่อมมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการสำหรับสินค้าและบริการที่จดทะเบียนไว้นั้นเท่านั้น ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 44 และมาตรา 80 ประกอบมาตรา 44 จึงยังไม่มีสิทธิหวงกันไม่ให้จำเลยใช้คำว่า “เทวารัณย์” และ “Dhewaran” ในกิจการจัดสรรที่ดินและบ้านของจำเลยได้
โจทก์ใช้คำ “เทวารัณย์” และ “DEVARANA” ประกอบกับคำว่า “สปา” และ “SPA” ซึ่งช่วยสื่อความหมายถึงกิจการให้บริการด้านสุขภาพโดยวิธีธรรมชาติอันเป็นกิจการหลักของโจทก์ที่ดำเนินการอยู่ ส่วนจำเลยใช้คำว่า “บ้าน” และ “Baan” ประกอบกับคำว่า “เทวารัณย์” และ “Dhewaran” ซึ่งก็สื่อความหมายถึงการจัดสรรที่ดินและบ้านของจำเลยที่เป็นกิจการคนละประเภทกับโจทก์ จึงไม่มีเหตุผลที่ประชาชนที่สนใจใช้บริการของโจทก์หรือบริการของจำเลยจะสับสนหลงผิดว่ากิจการของจำเลยเป็นกิจการของโจทก์หรือเกี่ยวข้องกับโจทก์แต่อย่างใด
ตามหนังสือรับรองนิติบุคคลของโจทก์ บริษัทโจทก์มีทุนจดทะเบียน 8,000,000 บาท ส่วนตามหนังสือรับรองนิติบุคคลของจำเลย จำเลยมีทุนจดทะเบียนมากถึง 90,000,000 บาท ลักษณะกิจการของจำเลยที่ปรากฏในเอกสารการโฆษณาที่จัดสรรที่ดินและบ้านขายในราคาสูงมาก แสดงให้เห็นได้ว่าเป็นกิจการที่ต้องลงทุนสูงและเป็นกิจการขนาดใหญ่ ขณะที่กิจการของโจทก์กลับไม่ปรากฏพยานหลักฐานให้เห็นว่าเป็นกิจการขนาดใหญ่ดังเช่นกิจการของจำเลย ย่อมไม่มีเหตุผลให้น่าเชื่อว่า จำเลยประกอบกิจการที่ใช้ชื่อโครงการหมู่บ้านของจำเลยโดยมุ่งแสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงโจทก์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงที่มีอยู่ในชื่อทางการค้า หรือเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการดังที่โจทก์กล่าวอ้าง การที่จำเลยใช้ชื่อโครงการหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวย่อมไม่เป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของโจทก์และไม่เป็นการทำให้เสียหายต่อการใช้ชื่อทางการค้าของโจทก์
เมื่อการใช้คำว่า “เทวารัณย์ สปา” และ “DEVARANA SPA” ของโจทก์กับการใช้คำว่า “บ้านเทวารัณย์” และ “Baan Dhewaran” ของจำเลยไม่ว่าจะใช้เป็นชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการในกิจการค้าของโจทก์และจำเลยแตกต่างกันและลักษณะคำที่ใช้ประกอบกันเป็นคำรวมดังกล่าวของแต่ละฝ่ายก็แตกต่างกัน จึงเชื่อได้ว่าการใช้ชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายบริการของแต่ละฝ่ายไม่ทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของกิจการของผู้ให้บริการแต่ละฝ่าย ก็ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีสิทธิในอันที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการที่โจทก์ได้จดทะเบียนไว้ดีกว่าโจทก์ จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของโจทก์ ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 80 ประกอบมาตรา 67

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยยุติการใช้ชื่อ เทวารัณย์ และ Dhewaran จัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ ซึ่งโฆษณา สิ่งพิมพ์ และสิ่งอื่นใดในทำนองเดียวกันที่มีคำว่า เทวารัณย์ และ Dhewaran ปรากฏอยู่ออกจากท้องตลาดนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป ห้ามจำเลยใช้หรือเกี่ยวข้องกับคำว่า เทวารัณย์ และ Dhewaran กับธุรกิจของจำเลย ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่จำเลยได้รับหนังสือแจ้งให้ยุติการใช้ชื่อจนถึงวันฟ้อง เป็นเวลา 235 วัน เป็นเงินค่าดอกเบี้ย 9,656.15 บาท รวมเป็นเงิน 209,656.15 บาท และใช้ค่าเสียหายเดือนละ 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะยุติการใช้คำว่า เทวารัณย์ และ Dhewaran กับธุรกิจของจำเลย
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอบังคับโจทก์ให้ยุติการใช้คำว่า เทวารัณย์ (Dhewaran) และให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายบริการตามคำขอเลขที่ 549241 ทะเบียนเลขที่ บ 25725 คำขอเลขที่ 549243 ทะเบียนเลขที่ บ 25925 คำขอเลขที่ 549250 ทะเบียนเลขที่ บ 25729 และคำขอเลขที่ 549247 ทะเบียนเลขที่ บ 25926 กับห้ามโจทก์คัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของจำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพิพากษายกฟ้องและยกฟ้องแย้ง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันกันในชั้นนี้รับฟังได้ยุติเป็นเบื้องต้นว่า โจทก์จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ชื่อว่า “เทวารัณย์ สปา” ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2543 ประกอบกิจการหลักด้านการให้บริการสุขภาพวิธีธรรมชาติหรือที่เรียกว่า สปา ต่อมาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2543 โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นรูปภาพประดิษฐ์ประกอบกับคำว่า “เทวารัณย์ สปา” และ DEVARANA SPA และเครื่องหมายการค้าเฉพาะคำว่า เทวารัณย์ สปา และ DEVARANA SPA สำหรับใช้กับสินค้าจำพวก 16 รายการสินค้า กระดาษเขียนจดหมาย ซองจดหมาย ทั้งในวันเดียวกันนั้นก็ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายบริการเป็นรูปประกอบคำและเครื่องหมายเฉพาะคำเช่นเดียวกันดังกล่าวสำหรับใช้กับบริการในจำพวก 41 สถานเสริมสุขภาพ ซึ่งนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้จดทะเบียนให้แล้ว ต่อมาวันที่ 10 กรกฎาคม 2546 โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายทั้งสองเครื่องหมายดังกล่าวเป็นเครื่องหมายบริการสำหรับบริการภัตตาคาร โรงแรม นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ารับจดทะเบียนแล้ว ต่อมาวันที่ 18 ตุลาคม 2547 และ 29 ตุลาคม 2547 โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายคำว่า “Devarana, Heaven for Spa Lovers” และ “เทวารัณย์ สวรรค์สำหรับคนรักสปา” สำหรับบริการ ภัตตาคาร โรงแรม และบริการนวด สถานดูแลรักษาสุขภาพ นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ารับจดทะเบียนแล้ว ต่อมาเดือนเมษายน 2548 โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายบริการคำว่า เทวารัณย์ และ Devarana เป็นอักษรประดิษฐ์หลายคำขอสำหรับบริการก่อสร้างซ่อมแซมที่อยู่อาศัย บริการจัดการดูแลทรัพย์สิน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าอาคารชุด ให้เช่าที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก บริการนวด สถานดูแลสุขภาพ สถานเสริมความงาม อาบอบนวด บำบัดรักษาสุขภาพด้วยสปา บริการนำสินค้าหลายชนิดมารวมกันเพื่อความสะดวกของผู้ซื้อบริการคาเฟ่ จัดหาอาหารและเครื่องดื่ม บ้านพัก โมเต็ล โรงแรม ให้เช่าห้องประชุม รับจัดเลี้ยง บริการอาหาร และเครื่องดื่ม ภัตตาคาร บริการดิสโกเธค ไนต์คลับ บาร์ สถานศึกษา สถานเสริมสุขภาพ สถานออกกำลังกาย ให้การศึกษา ให้ข้อมูลการศึกษา ซึ่งนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้จดทะเบียนให้แล้ว ส่วนจำเลยประกอบกิจการจัดสรรที่ดินและบ้าน โดยใช้ชื่อโครงการหมู่บ้าน “บ้านเทวารัณย์” และ “Baan Dhewaran” เริ่มเปิดโครงการเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2547
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์และอุทธรณ์ของจำเลยว่า การที่จำเลยใช้คำว่า “บ้านเทวารัณย์” และ “Baan Dhewaran” เป็นชื่อโครงการที่ดินและบ้านจัดสรรของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้าของโจทก์ หรือจำเลยมีสิทธิในการจดทะเบียนเครื่องหมายบริการดีกว่าโจทก์เฉพาะในส่วนการจดทะเบียนเครื่องหมายบริการที่ยื่นคำขอจดทะเบียนหลังจากจำเลยใช้ชื่อดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเห็นสมควรวินิจฉัยไปด้วยกันโดยในเบื้องต้นเห็นว่า คำว่า “เทวารัณย์” เป็นคำที่มีความหมายตามพจนานุกรมว่า สวนสวรรค์ จึงเป็นคำที่มีอยู่แล้วและใช้กันได้เป็นการทั่วไป ดังนี้ ย่อมไม่มีเหตุอันควรที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะถือสิทธิในการใช้คำนี้แต่ผู้เดียวโดยเด็ดขาด บุคคลอื่นย่อมยังสามารถใช้คำคำนี้ได้ เพียงแต่ต้องกระทำโดยสุจริตโดยไม่ทำให้เกิดความสับสนหลงผิดหรือเกิดความเสียหายแก่ผู้ที่ได้ใช้คำคำนี้เป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการหรือชื่อทางการค้ามาก่อน ตามข้อเท็จจริงที่รับฟังได้เป็นยุติแล้วว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการบ้านจัดสรรจำหน่ายแก่ประชาชนใช้คำว่า “บ้านเทวารัณย์” เป็นชื่อโครงการที่ดินและบ้านจัดสรรของจำเลยหลายแห่ง ซึ่งย่อมถือได้ว่าเป็นการใช้อย่างชื่อทางการค้า โดยใช้ให้ปรากฏต่อประชาชนเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2547 โดยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการทั้งแผ่นพับและทางหนังสือพิมพ์ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เมืองพัทยา ราคาต่อหน่วยตั้งแต่ประมาณ 8,000,000 บาท ถึง 45,000,000 บาท และแม้โจทก์จะได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของโจทก์ดังกล่าวโดยยื่นคำขอครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 ก็ตาม แต่ก็เป็นการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการสำหรับใช้กับสินค้ากระดาษเขียนจดหมายกับซองจดหมาย และสำหรับบริการสถานเสริมสุขภาพ ต่อมาในปี 2546 โจทก์ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายนี้สำหรับบริการภัตตาคารและโรงแรมเท่านั้น ซึ่งเป็นกิจการคนละประเภทกับกิจการจัดสรรที่ดินและบ้านของจำเลย จนกระทั่งเดือนตุลาคม 2547 โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายบริการที่มีคำว่า “เทวารัณย์” อยู่ด้วย อีกหลายคำขอซึ่งจดทะเบียนไว้สำหรับบริการทำนองเดียวกับที่เคยขอจดทะเบียนไว้แล้วในปี 2543 และ 2546 ดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายบริการ 2 คำขอ ที่ขอจดทะเบียนไว้สำหรับใช้กับบริการก่อสร้าง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และสำหรับใช้กับบริการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ตามที่นางสาววิภาวดี พยานโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการและผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงและเบิกความประกอบก็ได้ความว่า โจทก์เพิ่งเริ่มประกอบกิจการก่อสร้างโดยมีโครงการสร้างอาคารที่เมืองดูไบเมื่อปี 2550 ส่วนประเทศไทยก็เพิ่งเริ่มประชาสัมพันธ์โครงการสร้างอาคารที่พักในลักษณะเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในช่วงที่พยานปากนี้เบิกความในปี 2551 จึงเห็นได้ว่า ก่อนที่จำเลยจะใช้ชื่อทางการค้าคำว่า “บ้านเทวารัณย์” และ “Baan Dhewaran” ในเดือนมกราคม 2547 นั้น แม้โจทก์จะได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการโดยใช้คำว่า “เทวารัณย์” และ “DEVARANA” แต่ก็เป็นการจดทะเบียนไว้สำหรับบริการประเภทอื่นคนละประเภทกับกิจการของจำเลยดังกล่าวมาข้างต้น ซึ่งโจทก์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการสำหรับสินค้าและบริการที่จดทะเบียนไว้นั้นเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 44 และมาตรา 80 ประกอบมาตรา 44 จึงยังไม่มีสิทธิหวงกันมิให้จำเลยใช้คำว่า “เทวารัณย์” และ “Dhewaran” ในกิจการจัดสรรที่ดินและบ้านของจำเลยได้ ยิ่งไปกว่านั้น โจทก์ยังใช้คำว่า “เทวารัณย์” และ “DEVARANA” ประกอบกับคำว่า “สปา” และ “SPA” ซึ่งช่วยสื่อความหมายถึงกิจการการให้บริการด้านสุขภาพโดยวิธีธรรมชาติอันเป็นกิจการหลักของโจทก์ที่ดำเนินการอยู่ ส่วนจำเลยใช้คำว่า “บ้าน” และ “Baan” ประกอบกับคำว่า “เทวารัณย์” และ “Dhewaran” ซึ่งก็สื่อความหมายถึงการจัดสรรที่ดินและบ้านของจำเลยที่เป็นกิจการคนละประเภทกับกิจการของโจทก์ จึงไม่มีเหตุผลที่จะทำให้ประชาชนที่สนใจใช้บริการของโจทก์หรือบริการของจำเลยจะสับสนหลงผิดว่ากิจการของจำเลยเป็นกิจการของโจทก์หรือเกี่ยวข้องกับโจทก์แต่อย่างใด นอกจากนี้ตามหนังสือรับรองนิติบุคคลของโจทก์ก็ปรากฏว่าบริษัทโจทก์มีทุนจดทะเบียน 8,000,000 บาท ส่วนตามหนังสือรับรองนิติบุคคลบริษัทจำเลย จำเลยมีทุนจดทะเบียนมากถึง 90,000,000 บาท ลักษณะกิจการของจำเลยตามที่ปรากฏในเอกสารการโฆษณา ดังกล่าวข้างต้นที่จัดสรรที่ดินและบ้านขายในราคาสูงมาก แสดงให้เห็นได้ว่าเป็นกิจการที่ต้องลงทุนสูงและเป็นกิจการขนาดใหญ่ ขณะที่กิจการของโจทก์กลับไม่ปรากฏพยานหลักฐานให้เห็นว่าเป็นกิจการขนาดใหญ่ดังเช่นกิจการของจำเลย ย่อมไม่มีเหตุผลให้น่าเชื่อว่า จำเลยจะประกอบกิจการที่ใช้ชื่อโครงการหมู่บ้านของจำเลยโดยมุ่งแสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงของโจทก์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงที่มีอยู่ในชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการดังที่โจทก์กล่าวอ้าง การที่จำเลยใช้ชื่อโครงการหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวย่อมไม่เป็นการละเมิดในเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของโจทก์และไม่เป็นการทำให้เสียหายต่อการใช้ชื่อทางการค้าของโจทก์ และเมื่อการใช้คำว่า “เทวารัณย์ สปา” และ “DEVARANA SPA” ของโจทก์กับการใช้คำว่า “บ้านเทวารัณย์” และ “Baan Dhewaran” ของจำเลยไม่ว่าจะใช้เป็นชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการในกิจการค้าของโจทก์และจำเลยซึ่งแตกต่างกันและลักษณะคำที่ใช้ประกอบกันเป็นคำรวมดังกล่าวของแต่ละฝ่ายก็แตกต่างกันโดยคำว่า “สปา” หรือ “SPA” กับคำว่า “บ้าน” หรือ “Baan” ที่ใช้เป็นส่วนประกอบกับคำว่า “เทวารัณย์” และ “DEVARANA” หรือ “Dhewaran” มีความหมายให้ประชาชนสังเกตเห็นความแตกต่างกันชัดเจนด้วยดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น จึงเชื่อได้ว่าการใช้ชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายบริการของแต่ละฝ่ายไม่ทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของกิจการผู้ให้บริการของแต่ละฝ่าย ก็ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีสิทธิในอันที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการที่โจทก์ได้จดทะเบียนไว้ดีกว่าโจทก์ จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของโจทก์ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 80 ประกอบมาตรา 67 ตามฟ้องแย้งของจำเลย ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องและยกฟ้องแย้งนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์และอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share