คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4845/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บทบัญญัติมาตรา 24 พระราชบัญญัติล้มละลาย ไม่ได้บัญญัติห้ามผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจัดการทรัพย์สินของผู้อื่นหรือกระทำกิจการแทนผู้อื่น จำเลยที่ 2 ผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจึงมีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 แต่งตั้งทนายความแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ ๖๘๐๔ และโฉนดเลขที่ ๑๒๒๒๙ ตำบลพุแค อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ ๑ ที่โจทก์ยึดไว้แก่นางสมใจ มานะตระกูล ผู้ให้ราคาสูงสุด
จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด
โจทก์และนางสมใจ มานะตระกูล ผู้ซื้อทรัพย์ร้องคัดค้านว่าการขายทอดตลาดชอบแล้ว และจำเลยที่ ๑ ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องเพราะจำเลยที่ ๒ ซึ่งลงลายมือชื่อประทับตราของจำเลยที่ ๑ แต่งทนายความยื่นคำร้อง ถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดไปแล้วก่อนยื่นคำร้องขอให้ยกคำร้อง
ระหว่างไต่สวนคำร้อง จำเลยที่ ๒ แถลงรับว่าถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนแต่งตั้งทนายความยื่นคำร้องแทนจำเลยที่ ๑ จริง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องจำเลยที่ ๑ แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
โจทก์และผู้ซื้อทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๒๔บัญญัติว่า “เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกิจการของตน เว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้จัดการทรัพย์ หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ นี้” เห็นว่า การห้ามลูกหนี้ตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวไม่มีความหมายรวมถึงการจัดการทรัพย์สินของผู้อื่น หรือทำกิจการแทนผู้อื่นด้วย ดังนั้น การที่จำเลยที่ ๒ ลงลายมือชื่อประทับตราของจำเลยที่ ๑ แต่งตั้งทนายความยื่นคำร้องต่อศาล จึงเป็นการกระทำแทนจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกออกไปอีกส่วนหนึ่งจากจำเลยที่ ๒ นั้น ย่อมมีอำนาจกระทำได้ไม่ต้องห้ามตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว
พิพากษายืน

Share