แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ถึงแม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง และโจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานก็ดี หากมีหลักฐานบางอย่างปรากฏอยู่ในสำนวนว่าถ้าเป็นจริงตามหลักฐานนั้น จะไม่อาจลงโทษจำเลยได้แล้วศาลก็ชอบที่จะพิจารณาหลักฐานข้อนั้นให้ได้ความแน่ชัดเสียก่อนเช่น สอบถามโจทก์ หรือสืบพยานหลักฐานที่อาจมีต่อไปให้เสร็จสิ้นแล้วจึงพิพากษาคดีไปตามที่ได้ความนั้นไม่ใช่ด่วนพิพากษาไปตามคำรับสารภาพนั้นเลยทีเดียว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก กระสุนปืน 5 นัดไว้ในครอบครองไม่รับอนุญาต ขอให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่าปืนของกลางเป็นปืนที่จำเลยมีไว้โดยได้ขออนุญาตทางอำเภอรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว และจำเลยได้ส่งเอกสารใบรับรองลงชื่อประทับตรานายอำเภอประกอบคำให้การ ต่อมาในวันนั้นเองจำเลยขอถอนคำให้การเดิม ขอรับสารภาพว่ากระทำผิดตามฟ้องจริง
โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าเป็นจริงตามเอกสารซึ่งมีนายอำเภอรับรองว่าจำเลยได้นำปืนไปขอรับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2501 อันอยู่ภายในกำหนด 90 วัน เพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) ที่จำเลยส่งศาล จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษตามมาตรา 9 แม้จำเลยจะถอนคำให้การและกลับรับสารภาพก็ดีเอกสารฉบับนี้ก็ยังแสดงอยู่ว่า ถ้าเป็นจริงดังข้อความที่ปรากฏก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยโดยไม่พิจารณาความเท็จจริงในข้อนี้ให้เสร็จสิ้นกระแสความเสียก่อน จึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ถึงแม้โจทก์จำเลยจะแถลงว่าไม่สืบพยาน ศาลก็ชอบที่จะพิจารณาความข้อนี้ให้ได้ความแน่ชัดเสียก่อน เช่น สอบถามโจทก์หรือสืบพยานหลักฐานที่อาจมีในข้อนี้ต่อไปให้เสร็จสิ้น แล้วจึงพิพากษาคดีไปตามที่ได้ความนั้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปความ