คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่จำเลยกระทำผิดหลายกรรมต่างกันอันเป็นความผิดหลายกระทง บางกระทงคาบเกี่ยวระหว่างใช้กฎหมายเก่าและใหม่ไม่แน่ว่าจำเลยกระทำความผิดตามกฎหมายใดนั้น ศาลต้องพิจารณาใช้กฎหมายที่เป็นผลดีแก่จำเลย
จำเลยรับราชการตำแหน่งเสมียนตราได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่รับและจำหน่ายสลากกินแบ่ง เมื่อบังอาจเบียดบังเงินค่าขายสลากกินแบ่งไว้เป็นของตนโดยทุจริต ย่อมมีความผิดฐานยักยอกธรรมดาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ใช่ มาตรา 353 หรือ มาตรา 354
การกระทำผิดหลายกระทงซึ่งมีโทษหนักเท่ากันนั้น ศาลย่อมลงโทษจำเลยกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเมื่อครั้งรับราชการตำแหน่งเสมียนตราจังหวัดฉะเชิงเทราได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่เป็นผู้รับและจำหน่ายสลากกินแบ่งของรัฐบาล จำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันโดยบังอาจเบียดบังยักยอกเงินค่าขายสลากกินแบ่งต่าง ๆ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยโดยทุจริต ขอให้ลงโทษและคืนหรือใช้เงิน

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยยักยอก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319 แต่ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ซึ่งมีโทษเบาเป็นคุณแก่จำเลย พิพากษาจำคุก จำคุกจำเลย 3 ปี กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน275,130 บาท ให้ผู้เสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีมีข้อสงสัยพิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีฟังได้ดังที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงมาพยานของจำเลยที่นำสืบไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ แต่ที่ศาลชั้นต้นปรับบทความผิดของจำเลยมานั้นยังคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะการกระทำของจำเลยนี้เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันอันเป็นความผิดหลายกระทง บางกระทงคาบเกี่ยวระหว่างใช้กฎหมายเก่าและใหม่ ไม่แน่ว่าจำเลยกระทำความผิดตามกฎหมายใด จึงต้องพิจารณาใช้กฎหมายที่เป็นผลดีแก่จำเลย การกระทำของจำเลยดังกล่าวแล้วทุกกระทงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ประกอบด้วย มาตรา 91 อันเป็นความผิดฐานยักยอกธรรมดา กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 353,354 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เป็นผลดีแก่จำเลยยิ่งกว่ากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319 จึงต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เป็นบทลงโทษจำเลยแต่บทเดียวสำหรับทุกกระทง หาใช่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา353 ประกอบด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319 ดังที่ศาลชั้นต้นปรับบทมานั้นไม่และเมื่อความผิดของจำเลยทุกกระทงมีโทษหนักเท่ากันศาลย่อมลงโทษจำเลยเฉพาะกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวได้

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ซึ่งเป็นกระทงที่หนักแต่กระทงเดียว ส่วนข้อกำหนดโทษจำคุกหรือข้อคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share