แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การวินิจฉัยว่า จำเลยผู้มีอายุ 19 ปี จะควรได้รับความปราณีฐานยังเป็นเด็กนั้น ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของศาล
เมื่อศาลเห็นไม่ควรลดโทษให้จำเลย ก็ไม่นำ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา (ฉะบับที่ 14) พ.ศ. 2494
มาใช้.
ย่อยาว
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายเสงี่ยม จำเลยผู้เดียว มีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓ , ๒๕๖ ให้รวมกะทง
ลงโทษจำคุก ๒ ปี ลดตามมาตรา ๕๙ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน ยกฟ้องปล่อยนายบุญเลิศ
อัยการกับนายเสงี่ยมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า นายบุญเลิศจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓, ๒๕๖ ให้รวมกะทงลงโทษ
จำคุก ๒ ปี ยกอุทธรณ์นายเสงี่ยมจำเลย
นายบุญเลิศฎีกา,
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว คดีฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ที่อายุจำเลย ๑๙ ปี และว่าจำเลยควรได้รับความ
ปราณีฐานยังเป็นเด็กนั้น ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นไม่ควาลดโทษให้จำเลย จึงไม่นำ พ.ร.บ.
แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา (ฉะบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาใช้นั้น ชอบแล้ว
พิพากษายืน.