คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว นัดเลื่อนไปสืบพยานจำเลย ถึงกำหนดนัดจำเลย ทนายและพยานไม่มาศาล รุ่งขึ้นจำเลยมายื่นคำร้องว่า เป็นเพราะทนายจำเลยพลั้งเผลอ จดวันนัดผิดไป ดังนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนว่าเป็นความจริงตามคำร้องหรือไม่ เพราะแม้เป็นความจริงตามคำร้องก็ยังเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเอง ศาลจึงย่อมมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้ทีเดียว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยผิดสัญญา จึงบอกเลิกสัญญา ขอเงินมัดจำคืน จำเลยไม่คืนให้ จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ผิดสัญญา โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเอง

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว นัดสืบพยานจำเลยแต่จำเลยไม่มาตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นจึงสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยาน แล้วพิพากษาให้จำเลยคืนเงินมัดจำให้โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยผิดสัญญาจริง

ส่วนข้อที่จำเลยขอให้สั่งให้ไต่สวนคำร้องขอสืบพยานของจำเลยนั้น ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้จะรับฟังเป็นความจริง ตามคำร้องของจำเลยว่าเหตุที่จำเลยขาดนัดพิจารณาเป็นเพราะทนายจำเลยจดวันนัดผิดไปก็ดี ก็เห็นว่าเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเอง ทั้งจำเลยก็มิได้จัดการขอหมายเรียกพยานอย่างไรไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าศาลไม่จำเป็นจะต้องไต่สวนว่าเป็นความจริง ตามคำร้องหรือไม่ เพราะในคำร้องนั้นเองเพียงพอที่ศาลจะสั่งได้โดยไม่ต้องไต่สวนก่อน

จึงพิพากษายืน

Share