คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4802/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์ปรับบทลงโทษจำเลยไม่ถูกต้อง กับไม่ได้สั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายตามที่โจทก์ฟ้องขอมาด้วยศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันมีอาวุธปืนลูกซองสั้นไม่มีหมายเลขทะเบียนและตราประทับของเจ้าพนักงานและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุยกเว้นโทษตามกฎหมาย ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะร่วมกันชิงเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยในการชิงทรัพย์นั้นจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายจี้เชียงและผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าและเพื่อความสะดวกในการชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้นายจี้เชียงถึงแก่ความตาย และผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 289, 80, 339, 340 ตรี,371, 91, 83, 32, 33 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 8 ทวิ,72, 72 ทวิ ริบอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืน กับเม็ดกระสุนปืนของกลางให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามจำนวนที่ผู้เสียหายทั้งสองถูกชิงเอาไป และนับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ริบอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืน และเม็ดกระสุนปืนของกลางคำขออื่นให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานร่วมกับพวกมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตกระทงหนึ่งและพาอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุยกเว้นโทษตามกฎหมายอีกกระทงหนึ่งทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปี 6 เดือน ส่วนฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตนั้น เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิและ 72 ทวิ วรรคแรก ซึ่งเป็นบทหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา90 จำคุก 9 เดือนกับมีความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและถึงแก่ความตาย โดยมีอาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสามและวรรคสุดท้าย ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรี กับฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การชิงทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7) ประกอบด้วยมาตรา 80 ในกรรมเดียวกันนั้นผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7) ซึ่งเป็นบทหนักวางโทษประหารชีวิตลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือนและฐานฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิต รวมจำคุกตลอดชีวิต ให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษในคดีของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดคดีนี้แล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายต่อไปว่า แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตโดยปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิและมาตรา 72 ทวิ วรรคแรก และปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การชิงทรัพย์เพียงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7) ประกอบด้วยมาตรา 80 กับไม่ได้สั่งให้จำเลยที่ 1 คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายตามที่โจทก์อุทธรณ์ขอมาด้วยนั้น เห็นว่ายังไม่ถูกต้องสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ส่วนความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคแรกและ 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 กับมีความผิดฐานชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กาย และถึงแก่ความตาย โดยมีอาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339วรรคสาม และวรรคสุดท้าย ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรี กับฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การชิงทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7) และมาตรา289(7) ประกอบด้วยมาตรา 80 ในกรรมเดียวกันนั้นผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา ม าตรา 289(7) ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด กับให้จำเลยที่ 1 คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน 30,400 บาทแก่ผู้เสียหายด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share